ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะกลายเป็นสิ่งสำคัญของการใช้ชีวิตประจำวันทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างง่ายดายผ่านโลกของอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์แต่ว่ามันก็ได้ทราบผลกระทบต่อเราไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวหลายๆ คนสุขภาพจิตเสียเนื่องจากใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเสพข่าวสารต่างๆ มากเกินไปในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเราได้เห็น Facebook, Instagram, Twitter ถูกกล่าวหาว่าเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้งานโดยเฉพาะผู้ใช้งานที่อยู่ในกลุ่มวัยเด็ก ซึ่งล่าสุดก็ดูเหมือนว่าสื่อสังคมออนไลน์ของประเทศจีนก็จะไม่รอดด้วยเช่นเดียวกัน Tiktok ถูกตรวจสอบเนื้อเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพจิตของวัยเด็ก

ภาพ Pixabay
สมาคมอัยการสูงสุดของรัฐ California, Florida, Kentucky, และ รัฐอื่น ๆ ได้มีการตรวจสอบแอปพลิเคชันชื่อดังจากประเทศจีนอย่าง Tiktok เกี่ยวกับเนื้อเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายของวัยเด็ก โดยจะเป็นการตรวจสอบรูปแบบ, การทำงาน และ ตลาดพี่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ใช้งานวัยเด็ก
ระบบการทำงานของ Tiktok ก็เหมือนกับแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ประเภทอื่น โดยมันจะมีระบบที่จะคอยหาเนื้อหาที่ผู้ใช้งานชื่นชอบทำให้ผู้ใช้งานนั้นมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งวิธีการดังกล่าวก็เป็นวิธีการที่จะถูกตรวจสอบด้วยว่ามีความเกี่ยวข้องกับการดึงดูดผู้ใช้งานวันเด็กให้เข้ามาใช้งานมากขึ้นหรือไม่รวมถึงเวลาการใช้งานมีการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นแค่ไหน ทาง Tiktok ก็เคยโดนตรวจสอบเรื่องนี้มาแล้วด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพ Pixabay
ในปี 2019 Tiktok ได้มีการจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากมีการละเมิดกฎระเบียบความเป็นส่วนตัวของวัยเด็ก (Children’s Privacy) เนื่องจากมีเด็กหลายคนที่เข้ามาใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองและจากปัญหาดังกล่าวทำให้ทาง Tiktok ถูกจำกัดอายุการใช้งานโดยผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีแบบไม่สามารถอัปโหลดคลิปวิดีโอการคอมเม้นในวิดีโอต่าง ๆ นั้นเอง

ภาพ Pixabay
โฆษกของ Tiktok ก็ได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเขาบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเลยทีเดียวที่ทางสำนักอัยการมีการตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเยาวชนที่ใช้งานในแอปพลิเคชันเพราะพวกเราจะได้พัฒนาสื่อสังคมออนไลน์ของพวกเราให้มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น นอกจาก Tiktok แล้วสื่อสังคมออนไลน์ประเภทอื่น ๆ ก็จะถูกตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน สุดท้ายก็คงต้องมาติดตามดูว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ข้อมูลจาก The Verge
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook