Zoom เจาะลึกการบริการลูกค้าอัจฉริยะด้วยการซื้อกิจการของ Solvvy

Zoom เจาะลึกการบริการลูกค้าอัจฉริยะด้วยการซื้อกิจการของ Solvvy

                Zoom เหวี่ยงรั้วเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วเมื่อมูลค่าหุ้นพุ่งสูงขึ้นโดยเสนอเกือบ 15 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ Five9 เพื่อเข้าสู่การบริการลูกค้า ในที่สุดข้อตกลงก็พังทลายเมื่อราคาหุ้นตกต่ำ แต่ความต้องการของ Zoom ที่จะเข้าไปบริการลูกค้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่งก็ไม่ลดลง เมื่อต้นปีนี้ บริษัทได้ประกาศโซลูชันการบริการลูกค้าใหม่ ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากความสามารถที่มีอยู่ของ Zoom ตามที่ บริษัท เขียนไว้ในบล็อกโพสต์ประกาศบริการใหม่

การรวมฟังก์ชันของศูนย์ติดต่อเข้ากับโซลูชันการสื่อสารแบบครบวงจรของ Zoom ทำให้ Zoom Contact Center สามารถทำงานเป็นโซลูชันประสบการณ์ลูกค้าแบบสแตนด์อโลนหรือรวมเข้ากับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่มีอยู่ได้โดยตรง ลูกค้า Zoom ที่ใช้ Zoom Meetings, Zoom Phone และ/หรือ Zoom Chat จะรับรู้ถึงประสบการณ์การจัดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนและหัวหน้างาน เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแอปพลิเคชัน Zoom เดียวกัน

ด้วยการรวมฟังก์ชันที่มีอยู่บางส่วนเข้าด้วยกัน บริษัทจึงสามารถนำเสนอประสบการณ์การบริการลูกค้าภายในชุดเครื่องมือ Zoom วันนี้ บริษัทได้ประกาศแผนการที่จะขยายขอบเขตนั้นด้วยการซื้อกิจการ Solvvy สตาร์ทอัพอายุ 9 ขวบที่เน้นเรื่อง AI ในการสนทนา ด้วย Solvvy บริษัทจะได้รับระบบอัตโนมัติและความชาญฉลาดมากขึ้นและความสามารถในการล้างคำถามประจำโดยไม่ต้องพูดคุยกับบุคคล Velchamy Sankarlingam ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมของ Zoom ตระหนักดีว่าการซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้บริษัทมีฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญสำหรับการแข่งขันในพื้นที่นี้

“เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Solvvy จะขยายขอบเขตการนำเสนอของ Zoom Contact Center ด้วย AI แบบบริการตนเองและการสนทนาที่ปรับขนาดได้ ลูกค้าของเราจะได้รับประโยชน์จากศูนย์ติดต่อแบบอัตโนมัติ แบบบูรณาการ และง่ายต่อการปรับใช้ ซึ่งจะช่วยตอบคำถามของลูกค้าปลายทางและแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น ปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของลูกค้าและขับเคลื่อนการประหยัดการดำเนินงาน” Sankarlingam เขียนในบล็อกโพสต์ ประกาศข้อตกลง

Brent Leary นักวิเคราะห์หลักและผู้ก่อตั้ง CRM Essentials ซึ่งดูแลพื้นที่บริการลูกค้ากล่าวว่านี่อาจเป็นข้อตกลงที่ใช้งานได้จริงมากกว่าข้อตกลงกับ Five9

“ฉันคิดว่านี่น่าจะเหมาะกับ Zoom มากกว่า Five9 จริงๆ การรวม AI การสนทนากับแพลตฟอร์มการสื่อสารของ Zoom ดูเหมือนจะเป็นการผสมผสานที่ดีที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งสองฝ่าย และอาจสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับทั้งลูกค้าและพนักงานที่มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน” เขากล่าวเพิ่มเติม แม้ว่าบริษัทต่างๆ จะไม่แบ่งปันราคาซื้อ แต่ Solvvy ซึ่งเปิดตัวในปี 2556 สามารถระดมทุนได้ 16.5 ล้านดอลลาร์ตลอดทาง ตามข้อมูลของ Crunchbase ข้อตกลงนี้คาดว่าจะปิดตัวลงในไตรมาสที่สามของปีงบประมาณนี้ โดยหุ้น Zoom ขึ้นกว่า 9% ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันนี้

Source : https://techcrunch.com/2022/05/13/zoom-dives-deeper-into-intelligent-customer-service-with-solvvy-acquisition/

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Zoom เตรียมเพิ่มฟีเจอร์แปลภาษา

Zoom

Zoom เตรียมเพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาอัตโนมัติและเข้าร่วม Facebook VR

แอปพลิเคชัน Zoom เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกใช้งานและถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บริษัทที่พัฒนาแอปพลิเคชันนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว และการประชุมออนไลน์หรือการเรียนออนไลน์ก็กลายเป็นอีกหนึ่งชีวิตประจำวันของผู้คนในปัจจุบันนี้ ทำให้แอปพลิเคชันซูมจำเป็นที่จะต้องถูกพัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้นและเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น

Zoom มีแผนที่จะสนับสนุนการถอดความและแปลภาษา เพื่อให้การติดต่อสื่อสารนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้นโดยตั้งแต่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Zoom ได้มีระบบการถอดความอัตโนมัติที่เป็นภาษาอังกฤษ และมีแผนการที่จะเพิ่มการถอดความแบบเรียลไทม์ให้ได้มากถึง 30 ภาษาในช่วงปีหน้า และสำหรับฟีเจอร์การแปลภาษาอัตโนมัติในช่วงปลายปีหน้าก็มีแผนการที่จะเพิ่มให้ได้มากถึง 12 ภาษาเลยทีเดียวโดยผู้ที่จะใช้งานฟีเจอร์ในการแปลภาษาอัตโนมัตินี้จำเป็นที่จะต้องมีการชำระค่าบริการให้กับทาง Zoom อย่างไรก็ตามตอนนี้ Zoom ยังไม่ได้เปิดเผยออกมาว่าจะมีการเพิ่มภาษาใดบ้างเข้าไปในระบบ

นอกจากระบบการแปลภาษาแล้วยังมีการอัปเดตเกี่ยวกับฟีเจอร์ Whiteboard อีกด้วย ในตอนนี้ Zoom สามารถให้ผู้ใช้งานนั้นสร้างและแบ่งปัน Whiteboard ในขณะที่มีการประชุมกันได้ แต่ในอนาคตก็มีแผนการที่จะทำให้ Whiteboard ใช้งานได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีการประชุมออนไลน์ก็ตาม ซึ่งรูปร่างหน้าตาจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก

และการอัปเดตที่เป็นที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือการไปร่วมกับทาง Facebook VR ในปัจจุบันนี้บริษัท Facebook กำลังพัฒนาระบบการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Metaverse ซึ่งจะทำให้ผู้คนนั้นสามารถเชื่อมโยงถึงกันในโลกเสมือนจริงได้โดยใช้เทคโนโลยี VR และ AR โดยในปีหน้าแอปพลิเคชัน Zoom จะเข้าไปอยู่ใน Facebook’s Horizon Workrooms ซึ่งเป็นระบบ Working Space ในรูปแบบโลกเสมือนจริงของทาง Facebook โดยผู้ใช้งานสามารถที่จะประชุมออนไลน์และใช้ฟีเจอร์ Whitboard ของ Zoom ได้ภายในโลกเสมือนจริงนั้น

นี่เป็นเพียงการอัปเดตคร่าว ๆ ของแอปพลิเคชัน Zoom ที่จะมาในอนาคตถ้าอยากติดตามการอัปเดตอื่นสามารถรอติดตามได้ Zoomtopia 2021 ซึ่งเป็นงานที่จะพูดเกี่ยวกับการอัปเดตของแอปพลิเคชันเช่นเดียวกับทาง Google และ Apple นั่นเอง

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Zoom เพิ่มฟีเจอร์ Focus mode ลดสิ่งรบกวน

Zoom

ในช่วงที่การแพร่ระบาดของโรคโควิดนั้นกำลังแพร่ระบาดอยู่ในตอนนี้ทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์กันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือว่าการประชุม แล้วเมื่อทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์บางครั้งประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ นั้นก็ต้องลดลงไปด้วย เพราะว่าบริเวณรอบตัวฉันมีสิ่งที่จะดึงดูดสายตาเราออกไปจากการทำกิจกรรมต่างๆ เป็นไปหมดไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ เสียงรบกวน หรือแม้กระทั่งในการ Video Call ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หากมีผู้ใช้งานหลายคนก็อาจจะเป็นสิ่งที่รบกวนหรือดึงดูดความสนใจไปจากการทำกิจกรรมได้ด้วยเช่นเดียวกัน

แอปพลิเคชัน Zoom ได้กลายเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมที่ผู้คนหันมาใช้งานเป็นจำนวนมากในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิตตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนหรือด้านการทำงาน แล้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งานทางผู้พัฒนาจึงได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า “Focus mode” โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยลดสิ่งรบกวนต่างๆ ออกไปและจะช่วยให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถจดจ่อกับการทำงานและการเรียนได้เพิ่มมากขึ้น

โดยลักษณะการทำงานหลัก ๆ ของฟิวเจอร์นี้ใน Zoom มีดังนี้ เมื่อมีการเข้าร่วม Video Call และได้มีการใช้ฟีเจอร์ Focus mode ระบบจะทำให้ผู้ที่เป็น Host นั้นสามารถควบคุมการมองเห็นของผู้ใช้งานคนอื่นได้ โดยระบบจะทำการปิดกล้องของผู้ใช้งานคนอื่น ขณะที่ Host สามารถที่จะมองเห็น webcam ของผู้ที่เข้าร่วมได้ตามปกติ นอกจากนี้เมื่อฟีเจอร์นี้ทำงานจะทำให้หน้าจอของผู้พูดนั้นจะมาอยู่ตรงกลางของโปรแกรม เพื่อให้ผู้ฟังสามารถจดจ่อได้มากขึ้น และนอกจากวีดีโอของผู้พูดแล้ว ผู้ฟังสามารถเขียนชื่อ Emoji รวมไปถึงการ Screen Sharing ของผู้พูดได้อีกด้วย ฟีเจอร์นี้สามารถเปิดใช้งานได้กับบัญชีผู้ใช้งาน กลุ่ม รวมไปถึงรายบุคคล โดยสามารถเปิดใช้งานได้ที่ More button ขณะที่ทำการ Video Call

Zoom ทำระบบนี้ขึ้นเพื่อทำให้การเรียนและการทำงานนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อลดสิ่งรบกวนที่จะเข้ามาทำให้สมาธิของผู้ใช้งานนั้นว่อกแว่กขณะที่กำลังอยู่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ดีที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันให้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งแต่อย่างไรก็ตามความตั้งใจในการทำกิจกรรมต่างๆ นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานด้วยเช่นเดียวกันถ้าหากมีความตั้งใจ บางครั้ง Focus mode อาจจะไม่จำเป็นก็เป็นได้

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  
เวปไซด์ getup-it.com

บริษัท Zoom เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา

zoom

ในช่วงปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่นั้นเริ่มที่จะทำงานอยู่ที่บ้านรวมไปถึงการเรียนด้วยเช่นเดียวกันทำให้เทคโนโลยีนั้นกลายเป็นส่วนสำคัญของในช่วงปีที่ผ่านมาที่มีการแพร่ระบาดของโควิดและทำให้คนนั้นไม่สามารถเดินทางไปเพื่อพบปะกันได้เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นผู้ติดเชื้อของโลก และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ในช่วงปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างมากก็คือเทคโนโลยีวิดีโอคอลที่เรารู้จักกันก็คงจะเป็นแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Zoom

Zoom เป็นแอปพลิเคชันที่สามารถให้คนนั้นติดต่อสื่อสารผ่านการวิดีโอคอลได้รวมไปถึงการนำสไลด์ของ Powerpoint หรืองานอื่นนั้นมาแสดงบนหน้าจอได้ด้วยเช่นเดียว ด้วยความสะดวกและการตอบสนองต่อความต้องการของคนที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนและการทำงานทำให้บริษัทส่วนใหญ่รวมถึงการเรียนในมหาวิทยาลัยต่างพากันใช้ Zoom ในการประชุมงานรวมไปถึงการสอน ถึงแม้ว่าจะมีแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่สามารถทำในรูปแบบเดียวกันได้ แต่ว่า Zoom ก็คงเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและการที่มียอดดาวน์โหลดเป็นจำนวนมากทำให้บริษัทของ Zoom นั้นสามารถสร้างกำไรได้มากถึง 20,000 ล้านบาทเลยทีเดียว และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกในอนาคต

ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดช่วงปี 2020 ทำให้เราได้รู้ว่าบางครั้งการทำงานออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ในบางงานเราสามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ได้แถมบางสิ่งบางอย่างมากกว่าเสียอีก ทำให้ในอนาคตมีแนวโน้มว่าการทำงานออนไลน์จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานโดยทั่วไป เช่นเดียวกับการเรียนไม่แน่ในอนาคตเราไม่จำเป็นต้องไปเรียนที่ต่างประเทศเพื่อให้เสียค่าเดินทางแต่ใช้แอปพลิเคชันนลักษณะเช่นเดียวกับ Zoom ในการเรียนออนไลน์ได้เพียงแค่ต้องสมัครคอร์สการเรียนเท่านั้นเอง ในโลกอนาคตยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายที่เรายังไม่เคยเห็นหรือไม่สามารถจินตนาการได้และมันคงเพิ่มความสะดวกให้กับพวกเราอย่างมากแน่นอน

#zoom  #ทันโลกit  #getup-it.com

ข้อมูลจาก Workpointtoday

Cr.Pixabay