นับตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงช่วงกลางปีนี้สินทรัพย์ดิจิตอลอย่างคริปโตเคอเรนซี่ก็กลับมาอยู่ในช่วงตลาดขาลงอีกครั้งหลังจากที่เศรษฐกิจของโลกนั้นอยู่ในช่วงที่ตกต่ำ เงินที่เข้ามาลงทุนในตลาดก็พากันไหลออก เรียกว่าเป็นช่วงตลาดซบเซาก็ว่าได้ แต่ว่าในช่วงนี้เทคโนโลยีก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยเช่นเดียวกัน มีหลายๆ โปรเจคถูกสร้างขึ้น และอีกหลายโปรเจคก็ล่มสลายลง แต่ก็ดูเหมือนว่ามีหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นกับเหรียญ Solana

ภาพ Crypto Bolte
ผู้พัฒนาเหรียญ Solana ได้มีการเปิดตัวโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นในชื่อว่า “Solana Saga” โดยมีขนาดอยู่ที่ 6.67 นิ้วและมีราคาอยู่ที่ 1000 ดอลลาร์ โดยได้ทำการเปิดตัวในงาน keynote ในนิวยอร์ก ซึ่งวัตถุประสงค์ของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้คือทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ในการเทรดคริปโตได้ง่ายมากขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้น
Solana Saga เป็นการเปลี่ยนชื่อมาจากโทรศัพท์ OSOM’s OV1 โดยเครื่องดังกล่าวมีสเปคของเครื่องดังนี้
- ความจุ 512 GB
- Ram 12 GB
- Qualcomm Snapdragon+ Gen 1 CPU

ภาพ Crypto Bolte
Solana Saga จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้ความพยายามของเหรียญ Solana ที่ต้องการให้แอปพลิเคชันบนมือถือนั้นเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน โดยในปัจจุบันเทคโนโลยีของคริปโตเคอเรนซี่นั้นยากต่อการเข้าถึงสำหรับโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นระบบ NFTs หรือว่า DEFI นอกจากนี้ในโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวยังมี Wallet ในการเก็บคริปโต และจะมีซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า “Solana Pay” ที่สามารถทำงานร่วมกับ Apple Pay และ Google Pay ได้

ภาพ Coinmarketcap
ในปัจจุบันนี้ Solana ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่เป็นที่นิยมของนักลงทุนในตลาดคริปโตโดยเป็นเหรียญที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ในตลาด ณ ปัจจุบัน มีราคาประมาณ 1,300 บาท โดยมีราคาขยับขึ้นมา 24 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 1 สัปดาห์ (ราคาของช่วงเช้าวันที่ 24 มิถุนายน 2565) เหรียญนี้เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเป็นคู่แข่งของ Ethereum โดยมันสามารถทำธุรกรรมได้มากถึง 50,000 ธุรกรรมใน 1 วินาที
เมื่อเทียบกับ Ethereum ที่ทำได้แค่เพียง 30 ธุรกรรมใน 1 วินาที แถมยังมีราคาค่าทำธุรกรรมที่ถูกกว่าและปล่อยปริมาณของคาร์บอนน้อยกว่า แต่ถึงแม้ว่าเหรียญจะมีข้อดีมากมายแต่ว่าเหรียญ Solana ก็มีการหยุดชะงักการทำงานหลายต่อหลายครั้งซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ราคาเหรียญตกลง ในช่วงตลาดขาลงเช่นนี้ โดยมีการหยุดชะงักการทำงานไปถึง 5 ครั้งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
ช่วงตลาดขาลงเช่นนี้ถือว่าเป็นช่วงวัดใจของโปรเจคคิดโตหลายๆ ตัวว่าจะสามารถอยู่รอดไปจนถึงช่วงขาขึ้นรอบหน้าได้หรือไม่ หลายๆ โปรเจคที่ไม่มีคุณภาพก็จะล้มหายไปส่วนโปรเจคที่มีคุณภาพจะยังคงอยู่ ต้องมาลุ้นกันว่าSolana จะอยู่รอดไปถึงช่วงขาขึ้นรอบหน้าได้หรือไม่
ข้อมูลจาก Cnet
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook