Threads มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาแล้วThreads มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาแล้วThreads มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาแล้ว

Threads มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาแล้ว

          Threads แอปพลิเคชั่นสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท Meta ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคู่แข่งของทวิตเตอร์ได้มีการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่เข้ามา ซึ่งได้ถูกเปิดเผยจากโพสต์ของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก  CEO ของบริษัท โดยมีฟีเจอร์ดังนี้

  • แชร์โพสต์ไปที่ Instagram 
  •  ทำ Alt Text  ในรูปภาพและวีดีโอ
  • กล่าวถึงผู้ใช้งานคนอื่น

วิธีการใช้งานฟีเจอร์ใหม่

การแชร์โพสต์ไปที่ Instagram เมื่อผู้ใช้งานเข้าใช้ Threads ใต้โพสต์ของเราหรือคนที่เราติดตามจะมีรูปเครื่องบินกระดาษ เมื่อกดเข้าไปแล้วเราสามารถแชร์โพสต์นั้นๆไปที่ Instagram ได้ไม่ว่าจะเป็นกล่องข้อความ, แชร์ลงสตอรี่, โพสต์ไปยังหน้าฟีด และสามารถแชร์ไปที่ X ได้ด้วย ถ้าต้องการแบ่งปันไปยัง แอปอื่น ๆ ก็สามารถกดคัดลอกลิงค์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพ Pexels/Julio Lopez

ทำ Alt Text  ในรูปภาพและวีดีโอ ในการทำ Alt Text บนรูปภาพและวีดีโอใน Threads ให้ผู้ใช้งานสร้างโพสต์ขึ้นมาและกดที่เครื่องหมายคลิปหนีบกระดาษหลังจากนั้นทำการแนบรูปภาพและวีดีโอ โดยบริเวณใต้รูปภาพที่เราได้แนบจะมีข้อความขึ้นมาว่า “Alt Text (ข้อความกำกับภาพ)” เมื่อเรากดเข้าไปเราสามารถพิมพ์ข้อความกำกับรูปภาพได้นั่นเอง 

การกล่าวถึงผู้ใช้งานคนอื่น  เราสามารถกล่าวถึงผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ได้โดยการใช้เครื่องหมาย @ ตามด้วยชื่อ บัญชีของคนที่ถูกกล่าวถึง

ภาพ Pexels/Julio Lopez

          การอัพเดทครั้งนี้เหมือนเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Instagram เข้ามาใน Threads ซึ่งฟิเจอร์เหล่านี้การอัพเดทที่มีประโยชน์แต่ก็ควรมีตั้งแต่แอปเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานยังคงรอการอัพเดทครั้งใหญ่อย่าง การใช้งานผ่านเว็บไซต์ และ ประสิทธิภาพการค้นหา ซึ่งในส่วนนี้มาร์คซัคเคอร์เบิร์กก็ยังบอกอีกด้วยว่าจะมีการอัพเดทให้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า 

          ถึงแม้ว่าการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้าไปจะทำให้ Threads มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นแต่สิ่งสำคัญเลยก็คือตอนนี้ผู้ใช้งานเริ่มลดลงนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม Threads กลายเป็น สื่อสังคมออนไลน์ที่มีคนใช้งานถึง 100 ล้านคนได้รวดเร็วมากที่สุด แต่หลังจากนั้นความนิยมก็เริ่มลดลง ทำให้ปลายเดือนกรกฎาคมผู้ใช้งาน Threads ลดลงเกินกว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด  ทำให้ตอนนี้ทาง CPO ของบริษัทให้พนักงานช่วยกันโฟกัสกับการที่ดึงคนกลับมาใช้งานให้ได้มากที่สุด ก็ต้องมาดูว่า Threads จะสามารถสู้กับ X ในระยะยาวได้หรือไม่

ข้อมูลจาก The Verge , BBC 

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Meta ยกเลิกการทำ NFT บน Facebook และ Instagram

Meta ยกเลิกการทำ NFT บน Facebook และ Instagram

Meta บริษัทของมาร์คซัคเคอร์เบิร์กที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อแผนการสร้าง Metaverse รวมถึงตัวของเขาได้มีการพูดถึงเทคโนโลยี ตัวอย่างเช่น Cryptocurrency และ ผลงาน NFT จนถึงขั้นกลายมาเป็นโปรเจคในการพัฒนาเลยทีเดียว

ภาพ Pixabay/mohamed_hassan

โดยมาร์คซัคเคอร์เบิร์กได้ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2023 จะเป็น “ปีแห่งประสิทธิภาพ” โดยหลังจากที่มีการปลดคนงานไปกว่า 11,000 ราย ทางบริษัทยุติการจ้างพนักงานเพิ่มและหันมาโฟกัสเกี่ยวกับการตัดสินใจมากขึ้น โดยจะมีการตัดบางส่วนออกไปเพื่อให้การตัดสินใจนั้นรวดเร็วต่อการก้าวหน้าของบริษัท ซึ่งการประกาศการเปลี่ยนแปลงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนี้ส่วนหนึ่งก็เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี NFT แต่ดูเหมือนว่าการกระทำของบริษัทในตอนนี้จะย้อนแย้งกับคำพูดที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้โดย Meta จะยุติทดสอบการสร้างและการขาย NFT บน Instagram รวมถึงการแชร์ผลงาน NFT บน Instagram และ Facebook

ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยทั้งหมดเป็นการประกาศของ Stephane Kasriel หัวหน้าแผนก commerce and fintech โดยเจ้าตัวยังบอกถึงเหตุผลเกี่ยวกับการยุติโปรเจคในคราวนี้ไว้ด้วยว่า ทางบริษัทจะหันมาสนับสนุนครีเอเตอร์และธุรกิจ โดยทางบริษัทต้องการพัฒนาในส่วนที่มันสร้างผลลัพธ์ได้ดีในวงกว้าง ตัวอย่างเช่นการสร้างรายได้และการส่งข้อความในคลิป Reels และการพัฒนาระบบ Meta pay เป็นต้น

การยกเลิกการพัฒนา NFT กลายเป็นอีกหนึ่งโปรเจคเทคโนโลยี Blockchain ที่ทางบริษัท Meta ยกเลิก หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาได้มีการยกเลิกการพัฒนาเหรียญคริปโต Diem และการพัฒนากระเป๋าเก็บเหรียญ Novi

ภาพ Pixabay/geralt

ถึงแม้ว่าบริษัท Meta จะยุติการพัฒนาเทคโนโลยี NFTแต่ก็มีบริษัทอื่น ๆ การกระโจนเข้าหาตลาด NFT หลายเว็บไซต์ได้มีการโปรโมทผลงานศิลปะตัวอย่างเช่น Reddits และยังมีอีกหลายบริษัทได้มีการขายผลงานของตัวเองไม่ว่าจะเป็น Starbucks ที่สามารถขายผลงานราคา 100 เหรียญได้กว่า 2,000 ชิ้นงาน

เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่าในช่วงนี้เทคโนโลยี Blockchain และผลงาน NFT จะถูกพูดถึงน้อยลงแต่ก็ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนบางกลุ่มอยู่และถ้าหากสกุลเงินคริปโตเคอรี่กลับมาคึกคักอีกครั้งก็คงจะทำให้ตลาดนี้กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งอย่างแน่นอน

ข้อมูลจาก The Verge

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook