DART จรวสำหรับการทดลองเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย

DART

DART จรวดลำแรกสำหรับการทดลองเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยออกปฏิบัติภารกิจแล้ว 

NASA บอกเรายังปลอดภัยกันดีอยู่ในอนาคตอันไกลไม่มีดาวมฤตยูดวงได พุ่งเข้าชนโลกแน่นอน แต่เอ๊ะ! ทำไมต้องรีบทดลองยานกู้ภัยที่ใช้แปลี่ยนวงโคจรดาวเคราะห์น้อย

เคยมีหนังในอดีตที่โด่งดังสุดๆชนิดกวาดรายได้ทั่วโลกหสายเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องอุกกาบาตชนโลก อย่างเช่น Deep Impact ปี 1998 ที่อุกกาบาตชนโลกจนแทบทำให้สูญสิ้นมนุษยชาติ ทำเงินไปได้ 349 ล้านเหรียญ USD

แล้วก็ยังมีเรื่องที่โด่งดังอีกเรื่องในปีเดียวกัน Armageddon ที่ทำเงินทั่วโลกไปได้ 553 ล้านเหรียญ USD ที่ว่าด้วยทีมฮีโร่นอกคอกที่เดินทางไประเบิดอุกกาบาตก่อนที่มันจะพุ่งชนโลก

จะว่าเรื่องพวกนี้ไม่มีเค้าไม่มีมูลเลยก็คงไม่ได้เพราะว่า ถัดมาอีก 7 ปี ในปี 2005 NASA เองก็ยืมชื่อหนังดัง Deep Impact มาทำเป็นชื่อของ ภารกิจส่งยานอวกาศแบบไร้คนขับไปสำรวจดาวหาง  Tempel 1 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ยาวที่สุด 7.6 กิโลเมตร มันใช้เวลาวิ่งวนรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบเป็นเวลา 5 ปีกว่าๆ

แม้ว่าโครงการนี้จะบอกว่าเพื่อศึกษาโครงสร้างและทีมาที่ไปของดาวหาง แต่ชื่อของโครงการก็ชวนให้คิดถึงหนังเหลือเกินและพลอยสงสัยว่า NASA ก็แอบกังวลเรื่องนี้หรือเปล่า 

จนมาถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา NASA ก็ได้เผยว่าได้ปล่อยจรวด DART ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง NASA กับ Space X ของอีลอน มัสก์ ในภารกิจการทดลองเต็มรูปแบบในเทคโนโลยีที่จะช่วยปกป้องโลกจากภัยอวกาศ ชื่อเต็มๆของจรวดที่เป็นชื่อภารกิจด้วยของ DART  ก็คือ Double Asteroid Redirection Test

หรือการทดลองเปลี่ยนวงโคจรของอุกกาบาตคู่ ซึ่งก็หมายถึงภารกิจที่ยานลำนี้จะมุ่งหน้าไปเปลี่ยนวงโคจรของ Dimorphos  ที่เป็นดวงจันทร์ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย 65803 Didymos ที่วงโคจรห่างจากโลกเราออกไปประมาณมากกว่า 5 ล้านกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย ขนาดของ Dimorphos หรืออีกชื่อคือ Didymos B มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 160 เมตร วิ่งวนอยู่รอบ Didymos A ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 780 เมตร โดยยาน DART ถูกตั้งภารกิจให้พุ่งชน Dimorphos ที่ความเร็ว 15,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ในช่วงระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม 2022 เพื่อเปลี่ยนวงโคจรของมันให้เข้าใกล้กันมากขึ้น ทำให้จากเดิมที่ใช้เวลา 11.5 ชั่วโมงในการวนหนึ่งรอบ Didymos A จะสั้นลงประมาณ 10 นาที

แม้ว่านี่จะดูเป็นภารกิจที่เปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยเพียงเล็กน้อย แต่นี่ก็คือภารกิจของจริงครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่จะทำการทดลองอะไรแบบนี้ 

สิ่งที่หลายคนกังวลคือการไปเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยแบบนี้จะทำให้เกิดผลลัพธ์อะไรตามมาถึงโลกเราหรือเปล่า NASA บอกว่ามันจะไม่มีผลเสียอะไรเลยกับเรา เพราะว่า 65803 Didymos อยู่ห่างจากเรามากจนไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาในภายหลัง

ฟังอย่างนี้แล้วก็คงสบายใจแบบไม่ค่อยทั่วท้องเท่าไหร่นัก เพราะแม้ว่า NASA กับองค์กรอวกาศทั่วโลกจะออกมายืนยันว่าไม่มีปัญหา ไม่มีเคส ที่จะมีอันตรายใดๆในอนาคตอันใกล้ แต่การขยับจริงจังของ NASA ก็ต้องถือว่าน่าสนใจ ยิ่งมีข่าวยืนยันแน่ชัดจาก NASA ว่าใน วันศุกร์ที่ 13 เมษายน ปี 2029 ดาวเคราะห์น้อย 99942 Apophis ขนาด 340 เมตรพลังทำลายล้างนิวเคลียร์เป็นร้อยลูกจะผ่านโลกแบบใกล้ชิในระยะ 31,000 กิโลเมตร ถ้าถามว่าใกล้แค่ไหนก็ต้องบอกว่าดาวเทียมที่โคจรรอบโลกอยู่ในระยะ 36,000 กิโลเมตร เท่านั้น

เรียกว่าเฉียดฉิวชนาดนี้ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าที่ NASA ต้องเร่งทดสอบโครงการเพราะเกรงว่าอาจมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ 99942 Apophis กลายเป็นภัยร้ายหรือไม่ ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้จะได้เห็นทีมฮีโร่ตัวจริงอย่างที่เกิดในหนังจนต้องมีภารกิจ Armageddon  ต่อจาก Deep Impact

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ เทคโนโลยีรอบโลก 
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook