Clubhouse เพิ่ม Music mode ให้กับสายดนตรี

Clubhouse

Clubhouse เป็นแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์

Clubhouse เป็นแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นที่นิยมอย่างมากตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมาในตอนนี้ก็เป็นคู่แข่งกับสื่อสังคมออนไลน์หลาย ๆ แพลตฟอร์มเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือว่า Twitter ทำให้ Clubhouse นั้นจำเป็นที่จะต้องพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามาใช้งาน

โดยปกติแล้ว Clubhouse จะมีลักษณะเด่นของเนื้อหาบนแพลตฟอร์มก็คือ Audio Live ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าไปพูดคุยหรือเข้าไปรับฟังเนื้อหาที่ตัวเองสนใจ ในตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวก็ได้ถูกคัดลอกโดยสื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้น Clubhouse ก็ไม่น้อยหน้าเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานกันแล้ว โดยฟีเจอร์ใหม่นี้มีชื่อว่า “ Music mode ”

Music mode เป็นโหมดใหม่ที่ทาง Clubhouse สร้างขึ้นมาเพื่อผู้ใช้งานที่ชื่นชอบ Live Music โดยเฉพาะเลยทีเดียวไม่ว่าผู้ใช้งานจะเป็นสายฟังเพลงหรือเป็นนักดนตรีฟีเจอร์นี้จะทำให้คุณสามารถปรับแต่งการ Live music ให้เสียงเพลงมีคุณภาพที่สูงได้ และที่สำคัญยังสามารถเชื่อมต่อกับไมค์ USB หรือว่า Mixing board ได้ด้วยในขณะที่ทำการ Live music และที่สำคัญเลยก็คือเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทาง Clubhouse ได้มีการเพิ่ม Spatial Audio ทำให้การพูดคุยสนทนาในห้องนั้นมีชีวิตชีวามากขึ้นโดยระบบดังกล่าวนั้นจะทำให้เสียงที่มีการสนทนากันราวกับว่าเป็นเสียงของคนจำนวนมากมายที่อยู่ในห้องมากกว่าการพูดคุยกันแบบปกติ

โดยวิธีการเปิดใช้งาน Music mode สามารถเปิดได้โดยการกดไปบริเวณจุดไข่ปลา 3 จุดที่อยู่บริเวณมุมขวาของห้อง Audio Live หลังจากนั้นให้เลือกที่คุณภาพเสียง (Audio Quality) แล้วกดเลือกเพลง (music) อย่างไรก็ตาม Music mode ในช่วงเริ่มต้นนั้นจะเปิดให้ใช้งานสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS เพียงเท่านั้น สำหรับระบบปฏิบัติการ Android จะถูกอัพเดตให้ใช้งานกันเร็ว ๆ นี้ นอกจาก Music mode แอปพลิเคชัน Clubhouse ยังมีการปรับปรุงระบบค้นหา โดยการนำแถบค้นหาไปไว้บริเวณด้านบนของ hallway ทำให้ผู้ใช้งานสังเกตเห็นได้ง่ายและใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

การอัปเดตใหม่ครั้งนี้ของ Clubhouse ก็คงจะดึงดูดผู้ใช้งานโดยเฉพาะผู้ใช้งานที่ชื่นชอบในการฟังเพลงให้มาใช้งานได้เพิ่มอีกอย่างแน่นอน และตั้งแต่มีการปรับในเรื่องของการสมัครเข้าใช้งานทำให้ Clubhouse รองรับผู้ใช้งานหน้าใหม่ได้รวดเร็วมากขึ้นและกลายเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วมากเลยทีเดียว ที่น่าสนใจเลยก็คือในอนาคตจะมีฟีเจอร์อะไรมาให้ผู้ใช้งานอย่างเราได้ติดตามกันบ้าง

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ทุกคนสามารถใช้งาน Spaces ได้แล้ว

Twitter

Twitter Spaces มีการเปิดตัวมาในช่วงพฤศจิกายนปี 2020 เพื่อมาสู้กับ Clubhouse

เมื่อปีที่ผ่านมาแอปพลิเคชัน Clubhouse ได้มีการเปิดตัวขึ้นมาและใช้เวลาไม่นานก็กลายเป็นที่นิยมอย่างมากของผู้ใช้งานโดยในช่วงแรกเปิดใช้งานเฉพาะระบบปฏิบัติการ iOS เพียงเท่านั้นแต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีการเปิดให้ใช้บริการบนระบบ Android ซึ่งมีอิทธิพลของ Clubhouse ที่มีลักษณะของ คอนเทนต์แตกต่างจากสื่อสังคมออนไลน์ประเภทอื่น ได้ดึงดูดความสนใจผู้ใช้งานจากสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook และ Twitter ไปมากเลยทีเดียวทำให้ 2 แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่จำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบและฟีเจอร์ใหม่ของตัวเอง โดย Twitter ได้มีการสร้าง Twitter Spaces ซึ่งมีลักษณะการทำงานคล้ายกับ Clubhouse

Twitter Spaces มีการเปิดตัวมาในช่วงพฤศจิกายนปี 2020 เพื่อมาสู้กับ Clubhouse โดยในช่วงแรกนั้นข้อกำหนดของการใช้งาน Twitter Spaces ก็คือจะต้องมีผู้ติดตามจำนวนไม่น้อยกว่า 600 คนเป็นต้นไปซึ่งทำให้ Twitter Spaces เหมาะกับผู้ใช้งานที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์มากกว่าบุคคลธรรมดา โดยผู้ใช้งานทั่วไปนั้นไม่สามารถที่จะสร้างห้อง Twitter Spaces เอ็งได้ทำได้แค่เพียงเข้าไปฟังของคนที่มีผู้ติดตามจำนวน 600 คนขึ้นไปเพียงเท่านั้น

หลังจากเวลาผ่านไป 1 ปีดูเหมือนว่า Twitter จะเปิดโอกาสให้กับบุคคลทั่วไปมากขึ้น โดยทาง Twitter ได้ออกมาอัปเดตว่า Twitter Spaces สามารถใช้ได้แล้วกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานในระบบ Android หรือระบบปฏิบัติการ iOS สามารถใช้ได้เหมือนกัน นอกจากนี้บัญชี Spaces ก็ได้มีการทวิตคลิปวิดีโอสำหรับวิธีการใช้งาน Twitter Spaces อีกด้วย

Twitter ใช้เวลาทั้งปีในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ใน Twitter Spaces เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีมากที่สุดในการใช้งานเริ่มต้นจากสามารถเพิ่ม Co-host (หัวห้อง) โดยสามารถเพิ่มเข้ามาได้ถึง 10 คนเลยทีเดียว มีการจัดตั้งกองทุนสำหรับผู้ที่เป็นครีเอเตอร์ที่ใช้งาน Twitter Spaces โดยใช้ชื่อว่า “Spark Program” และได้มีการเพิ่มระบบตั๋วเพื่อให้ผู้ใช้งานที่เป็น Host สามารถสร้างรายได้จากการจัดรายการได้อีกด้วย

Twitter พยายามทำหลาย ๆ อย่างเพื่อให้แพลตฟอร์มของตัวเองมีความหลากหลายมากขึ้นแล้วต่อสู้กับแพลตฟอร์มอื่นได้ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะทำได้ดีเสียด้วย โดยการเปิดโอกาสให้กับผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้งาน Twitter Spaces นั้นคงจะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งานบน Twitter เลยที และด้วยฟีเจอร์ดังกล่าวคงจะทำให้ทวิตเตอร์นั้นสามารถสู้กับ Clubhouse ได้บ้างหรืออาจจะดีกว่าแต่อย่างไรก็ตามทาง Clubhouse ก็มีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit 
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Tiktok ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ “Tiktok story”

Tiktok

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีแอปพลิเคชันประเภทสื่อสังคมออนไลน์เกิดขึ้นใหม่มากมายเลย ซึ่งแต่ละนั้นมีแอปพลิเคชันก็จะมีจุดเด่นภายในตัวเองทำให้สามารถดึงดูดผู้ใช้งานเข้าไปใช้งานได้ และการที่มีสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นทำให้ผู้พัฒนาสื่อสังคมออนไลน์มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องแข่งขันกันพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานหน้าใหม่รวมไปถึงคงจำนวนผู้ใช้งานเดิมไว้ ทำให้เกิดการคัดลอกรูปแบบฟีเจอร์ของกันและกัน

Tiktok เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่ได้มีการคัดลอกฟีเจอร์ของ Instagram มาใช้ โดยฟีเจอร์ใหม่ของ Tiktok ที่ถูกคัดลอกมานั้นจะมีชื่อว่า “Tiktok story” ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการทำงานของ Instagram Story ทั้งหมดเลยทีเดียว โดย Tiktok story ได้ถูกเปิดเผยโดย Matt Navarra ผู้ที่เป็นปรึกษา Social Media โดยฟีเจอร์นี้จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถเข้าไปดูเนื้อหาที่ถูกโพสต์โดยบัญชีที่พวกเขาได้ติดตามได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ซึ่งจริง ๆ แล้วฟีเจอร์ดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจากแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า “Snapchat” แอปพลิเคชันที่มีลักษณะเด่นในการรูปภาพรวมไปถึงคลิปวิดีโอ Instagram ได้นำฟีเจอร์นี้มาทำตามเป็นฟีเจอร์ใหม่ของตนเองและก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ หลังจากนั้น Twitter ก็นำไปทำตามโดยใช้ชื่อว่า “Twitter Fleet” แล้วก็ดูเหมือนว่าจะปิดตัวลงในเร็ววันนี้เนื่องจากไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควรหลังจากเปิดตัวมาเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเวลาที่เปิดตัวมานั้นทาง Twitter ก็พยายามที่จะเพิ่มลูกเล่นเข้าไปเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานเพิ่มไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์, รูปภาพ gif และ ข้อความสี แต่ก็ยังไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้

ในลักษณะของการคัดลอกฟีเจอร์จากสื่อสังคมออนไลน์ประเภทต่าง ๆ นั้นเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในปัจจุบันนี้ YouTube Short และ Instagram Reels ก็เป็นฟีเจอร์ที่ได้แนวคิดมาจาก Tiktok หรือว่าจะเป็น Twitter Spaces และ Facebook Live Audio ที่มีต้นแบบมาจากแอปพลิเคชัน น้องใหม่อย่าง Clubhouse แม้กระทั่ง Onlyfans ที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่จำกัดการรับชมผู้ที่จะเข้าไปรับชม Onlyfans ได้นั้นจำเป็นที่จะต้องชำระเงินสมัครสมาชิกเพื่อจะเข้าไปติดตามเนื้อหาต่าง ๆ บุคคลภายในนั้นโพสต์ ในเคสนี้ Twitter ก็นำมาทำตามด้วยเช่นเดียวกันโดยใช้ชื่อว่า Twitter Superfollowers

ในอนาคตเราคงจะได้เห็นแบบฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์นั้นได้มีการออกดีเจอใหม่ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะเป็นในรูปแบบไหนนั้นเราคงต้องมาติดตามดูกัน ซึ่งก็ต้องดูด้วยว่าฟีเจอร์ใหม่ที่ออกมานั้นจะสามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้มากน้อยเพียงใด ถ้าหากว่าไม่ประสบความสำเร็จก็คงจะต้องปิดตัวไปเหมือน Twitter Fleet

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก BBC

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  
เวปไซด์ getup-it.com

Twitter Spaces เปิดให้บริการบนเว็บไซต์แล้ว

Twitter Spaces

หลังจากที่ Clubhouse ได้เปิดให้ดาวน์โหลดบนระบบปฏิบัติการ Android เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้เปิดให้บริการบนระบบปฏิบัติการ IOS มาแล้ว 1 ปี แอปพลิเคชันน้องใหม่นี้ก็ได้กลายเป็นที่นิยมของคนทั่วทั้งโลก ทำให้แอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์รุ่นพี่อย่าง Twitter จะต้องออกมาออกฟีเจอร์ใหม่เพื่อมาเป็นคู่แข่งกับ Clubhouse เลยทีเดียว ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ของ Twitter นั้นมีชื่อว่า Spaces

Spaces นั้นเป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Twitter ที่จะมีลักษณะของการสร้าง Content ในรูปแบบเดียวกันกับ Clubhouse คือผู้ใช้งานสามารถเปิดห้องและให้ผู้ติดตามเข้ามารับฟังการถ่ายทอดสดได้นั่นเอง

ในตอนนี้ก็เปิดให้ใช้บริการแล้วทั้งในระบบ iOS และ Android และหลังจากนั้นผู้พัฒนาก็เปิดให้ใช้บริการ Twitter Spaces บนเว็บไซต์ของ Twitter ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสำหรับ Twitter Space นั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับ Clubhouse เป็นอย่างมาก 

ซึ่งจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาในอนาคตและในตอนนี้สำหรับผู้ที่จะทำการ Host ใน Twitter Spaces นั้นจะต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 600 คน และผู้เป็น Host ของห้องนั้นสามารถสร้างตั๋วเพื่อเป็นบัตรผ่านในการเข้าชมรายการพิเศษที่จะถูกจัดขึ้นซึ่งตั๋วใบนี้จะสามารถตั้งราคาได้อย่างอิสระตามใจของผู้ที่เป็น Host

สำหรับผู้ที่จ่ายเงินซื้อตั๋วนั้นก็จะเปรียบเสมือนการสนับสนุนและสร้างรายได้ให้กับ Host ไปในตัวนั้นเอง (รายได้ของค่าตั๋วนั้นผู้ที่เป็น Host จะได้ 80%) ซึ่งฟีเจอร์นี้ยังไม่มีใน Clubhouse ซึ่งฟีเจอร์ Ticketed Spaces (ตั๋ว) นั้นจะให้ใช้งานเฉพาะผู้ที่มีผู้ติดตามใน Twitter มากกว่า 1 พันคนและเคยใช้ Twitter Spaces มามากกว่า 3 ครั้ง ในช่วงเวลา 1 เดือน ที่สำคัญคืออายุมากกว่า 18 ปี สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนสนใจเรื่อง Twitter Spaces นั้นสามารถเข้าไปติดตามข้อมูลต่าง ๆ จากทางทวิตเตอร์ Spaces ได้เลย

สิ่งที่น่าติดตามก็คือใน Twitter Spaces นั้นจะมีการอัปเดตอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจในอนาคตบ้าง และแอปพลิเคชันรุ่นพี่อยาก Twitter นั้นจะจะพัฒนาให้ Twitter Spaces เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถแข่งกับ Clubhouse ได้ดีมากแค่ไหน คงต้องมาติดตามดูกัน ในส่วนของสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ นั้นก็ได้ทำการพัฒนาฟีเจอร์ Audio Only เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Facebook, Discord, Reddit

#Twitter #TwitterSpaces #Clubhouse #ทันโลกit  #getup-it.com

ข้อมูลจาก The Verge: You can join Twitter’s Clubhouse-like Spaces rooms from a browser starting Wednesday

The Verge: Twitter will now let anyone with 600 or more followers host its audio Spaces on mobile

Blognone

ภาพจาก Twitter: Spaces

Clubhouse ประสบความสำเร็จบน Android

Clubhouse

Clubhouse แอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ที่เพิ่งเปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้วบน ระบบปฏิบัติการ iOS ได้เสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างมากซึ่งก็ทำยอดดาวน์โหลดได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว ซึ่งในปีที่แล้วนั้น Clubhouse เป็นแอปพลิเคชันที่ยังไม่เปิดให้บริการบนระบบปฏิบัติการ Android ทำให้มีผู้ใช้ Android หลายรายนั้นรู้สึกอิจฉาผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Appleเป็นอย่างมาก และก็ได้ตั้งหน้าตั้งตารอให้ Clubhouse เปิดบริการบนระบบปฏิบัติการ Android เสียที

ในที่สุด Clubhouse ก็เปิดให้บริการบนระบบปฏิบัติการ Android เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม และก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานโทรศัพท์ Android เป็นจำนวนมากเวลาผ่านไปเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Clubhouse บน Google Play ซึ่งเป็น Store ของระบบปฏิบัติการ Android นั้นมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านดาวน์โหลดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

Clubhouse ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์น้องใหม่ที่ที่ประสบความสำเร็จในแง่ของจำนวนผู้ใช้งานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และคงจะมีผู้ใช้งานมากขึ้นอีกในอนาคต ในตอนนี้ Clubhouse ก็ได้มีอิทธิพลมากถึงขนาดที่ว่าการจัดรายการวิทยุหลาย ๆ รายการนั้นได้เริ่มมีการจัดรายการผ่าน Clubhouse และสื่อสังคมออนไลน์หลาย ๆ แพลตฟอร์มก็ได้พัฒนาฟังก์ชันในลักษณะเดียวกันกับแอปพลิเคชัน Clubhouse ด้วย 

บน Clubhouse มีเนื้อหาที่หลากหลายและที่สำคัญยังง่ายต่อการติดตาม ไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่เพียงแค่เปิด Clubhouse และเข้าไปในห้องที่มีเนื้อหาที่ตนเองสนใจก็สามารถรับรู้ถึงเนื้อหาได้ ไม่เหมือนกับ YouTube ที่ที่ต้องใช้เวลาในการนั่งดู หรือแม้แต่กระทั่งข้อความบน Facebook หรือ Twitter ที่ต้องนั่งอ่าน แถม Clubhouse ยังสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ด้วย ด้วยความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในสื่อสังคมออนไลน์ไหน ๆ เลยทำให้ ความนิยมพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Clubhouse มาใช้บริการในตอนนี้ คงต้องใช้เวลาในการสมัครนานหน่อยนะครับ เนื่องจากมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากทำให้การสมัครนั้นมีความล่าช้าบ้าง 

ตอนนี้สื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ Clubhouse ออกมาด้วยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Twitter  เรียกว่ารุ่นพี่ของวงการนั้นไม่ยอมรุ่นน้องจริงๆ 

#ClubHouse #Android #ทันโลกit #getup-it.com

ข้อมูลจาก Gadgets.ndtv 

ภาพแต่งจาก Canva

ยินดีต้อนรับชาว Android สู่แอป Clubhouse

Clubhouse

สื่อสังคมออนไลน์ถือว่าเป็นสื่อสังคมที่มีขนาดใหญ่และครอบคลุมไปทั่วโลกซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีแพลตฟอร์มต่างๆ มากมายให้เราได้เลือกใช้กันไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter Instagram หรืออื่น ๆ แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ได้มีแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์พี่เพิ่งเปิดตัวมาแต่ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั่นก็คือแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Clubhouse

Clubhouse เป็นแอปพลิเคชันประเภทสื่อสังคมออนไลน์ประเภทหนึ่งที่มีความพิเศษเฉพาะตัวนั่นก็คือ Content ภายในแอปพลิเคชันนี้จะมีเพียงแค่เสียงเท่านั้นและในการถ่ายทอดสดแต่ละครั้งก็จะไม่สามารถย้อนกลับมาฟังได้ มันก็เปรียบเสมือนการจัดรายการวิทยุออนไลน์นั่นเอง นอกจากจะจัดรายการแล้วยังสามารถเปิดห้องสำหรับพูดคุยในหัวข้อเดียวกันได้อีกด้วย และภายใน Clubhouse มีเรื่องราวที่หลากหลายเป็นอย่างมากซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ตามความสนใจเลย ซึ่งความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีในสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ทำให้ Clubhouse ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว แต่ว่าในช่วงแรกนั้น Clubhouse ได้ถูกพัฒนามาใช้บนระบบปฏิบัติการ iOS เพียงเท่านั้น ทำให้ในช่วงที่ Clubhouse ได้รับความนิยมผู้ใช้โทรศัพท์ Android นั้นรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก

แต่ว่าในวันที่ 21 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ แอป Clubhouse ก็จะเปิดบริการให้กับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้วทั่วทั้งโลก ในวันที่เปิดให้บริการยอดดาวน์โหลดของแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ Android ก็คงจะพุ่งอย่างแน่นอนซึ่งก็ขอแสดงความยินดีกับชาว Android ที่จะได้เข้าร่วม Clubhouse เช่นเดียวกับชาว iOS สักทีหลังจากที่รอคอยมานาน

การมาของ Clubhouse นั้นทำให้ผู้คนนั้นเริ่มจะจัดรายการได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น ในปัจจุบันนี้รายการสดส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะจัดรายการผ่านทาง Clubhouse ไปพร้อมกับช่องทางหลักของตัวเองแล้ว ซึ่งในอนาคตก็คงจะมีการจัดรายการบน Clubhouse เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ถ้าถามว่า Clubhouse นั้นได้รับความนิยมมากแค่ไหนก็ต้องตอบเลยว่ามากเพราะว่าในปัจจุบันนี้สื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter ก็กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นฟีเจอร์ในลักษณะเดียวกันกับ Clubhouse เลยทีเดียว โดยในทวิตเตอร์จะมีชื่อฟีเจอร์นี้ว่า Twitter Space และใน Facebook จะชื่อว่า Facebook Live Audio นั่นเอง เรียกว่ารุ่นพี่ใหญ่อย่าง Facebook และ Twitter ก็ไม่ยอมน้อยหน้าน้องใหม่อย่าง Clubhouse เลยทีเดียว

#ClubHouse #Android #ทันโลกit  #getup-it.com

ข้อมูลจาก Droidsan.com

ภาพแต่งจาก Canva