IOS 16.4 Beta 3 มีอะไรน่าสนใจบ้าง

IOS 16.4 Beta 3 มีอะไรน่าสนใจบ้าง

สำหรับคนที่ใช้โทรศัพท์ iPhone ในตอนนี้ระบบปฏิบัติการล่าสุดก็คือ iOS 16.3.1 ซึ่งได้มีการปล่อยให้อัปเดตมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่สำหรับระบบปฏิบัติการล่าสุดที่กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนานั้นก็คือระบบปฏิบัติการ iOS 16.4 Beta 3 ซึ่งในปัจจุบันนี้เปิดให้มีการทำ Public Tester

บริษัท Apple ได้มีการปล่อยระบบปฏิบัติการรุ่น iOS 16.4 Beta 3 ออกมาให้ทำการทดสอบกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเราสามารถตีความได้ว่าในอนาคตอันใกล้ระบบปฏิบัติการ iOS 16.4 จะปล่อยให้ผู้ใช้งาน iPhone ได้อัปเดตกัน ซึ่งในช่วงที่ได้มีการทดสอบอยู่ตอนนี้ก็มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมายปรากฏออกมา มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

ภาพ Wallpaper.com/Gourmet

Apple ID และ Beta Software Update

iOS 16.4 จะอนุญาตให้สามารถใช้ Apple ID อื่นในเครื่องเดียวกันได้ หรือเรียกง่าย ๆ นั่นก็คือการสับเปลี่ยน account ในการใช้งานนั่นเอง

อัปเดต Apple Books

ในระบบปฏิบัติการ iOS 16.4 Beta 2 ได้มีการนำอนเมชั่น page-turn curl กลับมาหลังจากที่นำออกไปในระบบปฏิบัติการ iOS ก่อนหน้านี้ โดยในเวอร์ชั่น iOS 16.4 Beta 3 ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกรูปแบบของอนิเมชั่นได้

อิโมจิใหม่

IOS 16.4 Beta ได้มีการเพิ่มอิโมจิใหม่ให้กับเครื่อง iPhone ทั้งหมด 31 ตัวด้วยกัน

อัปเดต Apple podcast

Apple podcast เป็นอีกหนึ่งแอปที่คนนิยมใช้งานกัน ในการอัปเดตใหม่นี้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงช่องพอตแคสที่ติดตามจากส่วนของ Library ได้เลยและยังสามารถใช้ฟังก์ชัน Up Next เพื่อที่จะฟังพอดแคสต่อ เริ่มต้นตอนใหม่ที่ได้มีการเซฟไว้หรือลบตอนที่ไม่อยากฟังออกไป

แอป Music ที่เปลี่ยนไป

หน้าตาของแอป Music จะไม่เหมือนเดิมโดยได้มีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ iOS Beta 1 เมื่อผู้ใช้งานเพิ่มเพลงในคิว ก็จะมีภาพ banner ขึ้นอยู่บริเวณด้านล่าง แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ขึ้นมาเต็มหน้าจอ

ภาพ Wallpaper.com/Marshall

คีย์บอร์ด เสียง Siri และ การอัปเดตภาษา

ใน iOS 16.4 Beta 1 ได้มีการเพิ่มภาษาของคีย์บอร์ดเข้าไปซึ่งก็คือ Choctaw และ Chickasaw ในส่วนของเสียง Siri มีการเพิ่มภาษาอารบิกและภาษาฮิบบลู ในส่วนของการอัพเดทของภาษานั้น Apple ได้มีการเพิ่มภาษาเกาหลี ภาษายูเครน ภาษาคุชราต ภาษาปัญจาบ และภาษาอูรดู

การอัปเดตของระบบปฏิบัติการ iOS 16.4 นั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ และก่อนปล่อยตัวเต็มออกมาคงจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา อย่างไรก็ตามยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าระบบปฏิบัติการ iOS 16.4 นั้นจะปล่อยมาให้ดาวน์โหลดกันเมื่อใด

ข้อมูลจาก Cnet

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

iPhone SE 4 ยังไม่ตาย Apple มีแผนรื้อฟื้น

iPhone SE 4 ยังไม่ตาย Apple มีแผนรื้อฟื้น

อย่างที่เรารับรู้กันดีว่าบริษัท Apple มักจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในทุกๆ ปี และก็จะมีการยุติการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ตัวอย่างเช่นเราเห็น Apple ประกาศหยุดการผลิต iPod Touch เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา และแน่นอนว่าคงมีอุปกรณ์อีกหลายรุ่นที่ทาง Apple จะยุติการผลิตในอนาคตอย่างไรก็ตามไม่ใช่กับiPhone SE 4

iPhone SE ถูกผลิตครั้งแรกในปี 2016 และ iPhone SE (Gen 2) ถูกผลิตขึ้นมาในปี 2020 และ Gen 3 นั้นได้มีการผลิตขึ้นมาเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดย 2 เดือนก่อนหน้านี้ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้มีการออกมาบอกว่าทางบริษัทจะยุติการผลิต iPhone SE แต่ล่าสุดตัวเขาก็ได้ออกมากลับคำพูดและบอกว่า iPhone SE 4 จะกลับมาเป็นแผนการผลิตของ Apple อีกครั้ง

ภาพ Apple

ตามข่าวที่ Ming-Chi Kuo ให้มา ลักษณะของ iPhone SE 4รูปร่างจะคล้ายคลึงกับ iPhone 14 โดยมีหน้าจออยู่ที่ 6.1 นิ้วและเป็นจอ OLED โดยจะมีขนาดใหญ่กว่า iPhone SE 3 ที่สำคัญยังเปลี่ยนชิป 5G เป็นของ Snapdragon โดยก่อนหน้านี้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm แต่ที่ยังไม่แน่ใจก็คือใน iPhone SE 4 จะมีพรีเมี่ยมฟีเจอร์เหมือน ใน iPhone 14 หรือไม่ ตัวอย่างเช่นระบบโทรฉุกเฉิน, ระบบ Face ID, และการถ่ายภาพกลางคืน โดยฟีเจอร์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ไม่มีอยู่ใน iPhone SE 3 และถ้าหากว่า iPhone SE 4

จะเปลี่ยนเป็นระบบ Face ID จะทำให้ iPhone รุ่นใหม่ทั้งหมดไม่มีระบบ Touch ID ในการปลดล็อก ซึ่งจะทำให้บริเวณหน้าจอนั้นกว้างขึ้นและไม่มีปุ่มอีกต่อไป ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Apple จะมีการเปิดตัวมาiPhone SE รุ่นใหม่ตามที่นักวิเคราะห์รายนี้ได้ให้ข่าวไว้หรือไม่ สำหรับช่วงเวลาในการเปิดตัว iPhone SE 4นั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะเปิดตัวในช่วงปีหน้าหรือในปี 2024 สำหรับราคามีความเป็นไปได้ว่าจะมีราคาใกล้เคียงกับเครื่องรุ่นเก่าโดยจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 400 เหรียญสหรัฐจนถึง 600 เหรียญสหรัฐขึ้นอยู่กับขนาดความจุ

ภาพ Apple

iPhone SE เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะกับคนที่มีงบน้อย เพราะนอกจากจะราคาถูกแล้วคุณภาพในด้านต่าง ๆ ก็ไม่แพ้กับ iPhone พี่เปิดตัวมาในปีเดียวกัน ดังนั้นถ้าหาก Apple จะยุติการผลิตไปก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเสียดายอย่างแน่นอน

ข้อมูลจาก The Verge

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ผู้ใช้งาน Apple สามารถตั้งเสียงของ Siri ได้ผู้ใช้งาน Apple สามารถตั้งเสียงของ Siri ได้

ผู้ใช้งาน Apple สามารถตั้งเสียงของ Siri ได้

Apple นั้นมีผลิตภัณฑ์มากมายไม่ว่าจะเป็น iPhone iPod หรือ iPad และอื่น ๆ โดยในเครื่องทุกเครื่องนั้นจะมีตัวช่วยภายในเครื่องที่เรารู้จักกันในชื่อ Siri

โดยตัวของ Siri นั้นจะช่วยให้การทำงานบนผลิตภัณฑ์ของ Apple ทำได้ง่ายมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้ปลายนิ้วของเราสัมผัสกับตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการโทรออก การค้นหาข้อมูล การตั้งค่าภายในเครื่อง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งโดยปกติแล้วเสียงของตัวผู้ช่วยอย่าง Siri นั้นจะเป็นเสียงผู้หญิงและเป็นเสียงที่ตั้งค่าเริ่มต้นของตัวเครื่องทุกเครื่องจากโรงงาน

แต่ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้นสามารถเลือกเสียงให้กับ Siri ได้แล้ว โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาบริษัท Apple ได้ออกมารายงานว่าโทรศัพท์รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นั้นจะสามารถเลือกเสียงของ Siri ได้ ระหว่างเสียงของผู้ชายและเสียงของผู้หญิง และยังมีสำเนียงให้เลือกถึง 6 สำเนียงเลย แต่ว่าค่าพื้นฐานในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะเป็นเสียงผู้หญิง ส่วนในประเทศอังกฤษนั้นจะเป็นเสียงผู้ชาย นอกจากนี้ทางบริษัท Apple นั้นยังได้เพิ่มเสียงใหม่ให้กับ Siri ถึง 2 เสียงด้วยกัน

โดยการเปลี่ยนแปลงเสียงของ Siri นี้จะนำเข้ามาในระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 Beta และยังมีการอัปเดตระบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเทียบระบบสุขภาพแบตเตอรี่รวมไปถึงชุดคำสั่งอื่น ๆ อีกมากมาย โดยตัวระบบ iOS 14.5 นั้นยังอยู่ในขั้นทดลองระบบปฏิบัติการและยังไม่เปิดมาให้ผู้บริโภคได้อัปเดตกัน โดยจะมีการอัปเดตในช่วงหลังของปีนี้อย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดูจะไม่ค่อยน่าตื่นเต้นมาสักเท่าไหร่กับการเปลี่ยนแปลงเสียงของผู้ช่วย Siri เนื่องจากบางคนแทบไม่ได้ใช้ตัวของผู้ช่วยนี้เลย แต่สำหรับบางคนก็ใช้ตัวผู้ช่วยของผลิตภัณฑ์จาก Apple เป็นประจำการที่มีอะไรแปลกใหม่เข้ามาก็คงจะทำให้รู้สึกถึงความแปลกใหม่ที่มีเข้ามาภายในตัวเครื่อง

ในปัจจุบันนี้ระบบผู้ช่วยด้วยเสียงนับว่าเป็นอีกหนึ่งระบบที่ต้องมีอยู่ในเครื่องสมาร์ทโฟนแทบทุกเครื่องเลยก็ว่าได้ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าเป็นระบบที่ไม่สำคัญมากนักจนบางครั้งไม่ได้ใช้งานมันเลย แต่ในสถานการณ์บางสถานการณ์นั้นมันก็เป็นระบบที่สำคัญมาก ดังนั้นก็ควรที่จะฝึกใช้ระบบผู้ช่วยไว้บ้างนะครับหรืออย่างน้อยศึกษาไว้ก็ดีว่าตัวผู้ช่วยสามารถทำอะไรได้บ้าง ไม่แน่อาจจะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานสมาร์ทโฟนของเราก็เป็นได้

ข้อมูลจาก CNN, IPhoneMod

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Tiktok ออกไป สมาชิกรัฐสภาสั่ง Apple และ Google ให้นำแอปออกจากร้านค้า

Tiktok ออกไป สมาชิกรัฐสภาสั่ง Apple และ Google ให้นำแอปออกจากร้านค้า

ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนเป็น 2 ประเทศยักษ์ใหญ่ในโลกและเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจ โดยทั้งสองประเทศมักจะมีประเด็นความขัดแย้งให้ได้ติดตามกันเป็นประจำ หนึ่งในนั้นก็คือปัญหาความมั่นคงระดับชาติจาการใช้งานสังคมออนไลน์

เมื่อสมัยรัฐบาลของโดนัลด์ท รัมป์ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Tiktok ที่ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ByteDance ยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน ว่าเป็นแอปพลิเคชันที่อันตรายและอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นเสียงหรือลักษณะใบหน้า ถึงแม้ว่าจะมีกระแสต่อต้าน แต่ในรัฐบาลของโจ ไบเดนก็ได้มีการยกเลิกคำสั่งแบน Tiktok และ WeChat ทำให้ชาวอเมริกันยังสามารถใช้งานแอปทั้ง 2 ได้จนถึงปัจจุบันนี้

 ภาพ Pixabay

หลังจากข่าวเงียบหายไป กระแสการต่อต้านก็กลับมา Michael Bennet สมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกาพรรคเดโมแครตจากรัฐโคโลราโด ได้มีการเขียนจดหมายถึง Tim Cook ผู้บริหารของ Apple และ Sundar Pichai ผู้บริหารของ Google เพื่อให้นำ Tiktok และ WeChat ออกจากร้านค้า App Store เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีความเคลื่อนไหวของทาง Google และ Apple ออกมา ถึงแม้ตอนนี้จะมีการพยายามให้ระงับการใช้งานแอปพลิเคชันจากจีนทั่วทั้งประเทศแต่ก็ยังทำได้แค่บางพื้นที่ เช่นในรัฐโอไฮโอ, นิว เจอร์ซีย์ มีการสั่งแบนแอป Tiktok จากอุปกรณ์ภายในพื้นที่ของรัฐ ตามมาด้วยรัฐเวอร์จิเนียที่ห้ามใช้งาน Tiktok และ WeChat เมื่อ เมื่อปลายปีที่ผ่านมารัฐจอร์เจียก็มีการสั่งระงับการใช้งานแอปจากจีนด้วยเช่นเดียวกัน

 ภาพ Pixabay

ท่ามกลางความกดดันทางบริษัทผู้พัฒนาก็รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของรัฐบาลในบางรัฐของอเมริกา ซึ่งทางโฆษกของบริษัทก็ชี้แจงว่าทางบริษัทพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาตามแนวทางของกฎระเบียบในแต่ละประเทศ และจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับแพลตฟอร์มในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ Shou Zi Chew เจ้าของ Tiktok จะมีการทำให้การยืนยันในการประชุมที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ และแก้ไขประเด็นที่ถูกโจมตี

ถึงแม้ว่าจะไม่กระทบกับผู้ใช้ในประเทศไทย แต่การสูญเสียฐานผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีประชากรเป็นจำนวนมากนั้น ก็ทำให้ Tiktok เสียรายได้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว สุดท้ายก็คงต้องมาติดตามดูว่าประเทศอเมริกาจะสามารถใช้งานแอปจากจีนได้อีกหรือไม่ แต่ในทางกลับกันตอนนี้ประเทศจีนก็ไม่สามารถใช้ Facebook ได้เช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก Cnet

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

อัปเดต iOS 16.3 เพิ่มความปลอดภัย

อัปเดต iOS 16.3 เพิ่มความปลอดภัย

Apple ได้มีการปล่อยระบบปฏิบัติการ iOS 16.3 ให้ผู้ใช้งานโดยทั่วไปได้ดาวน์โหลดกันแล้ว โดยระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะเน้นในเรื่องความปลอดภัยของ Apple ID

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่ผ่านมา Apple มีการเปิดตัว Hardware Key ซึ่งเป็นเหมือนความปลอดภัย 2 ชั้นในการเข้าใช้งาน Apple ID เช่นเดียวกันมันสามารถช่วยผู้ใช้งานล็อกดาวน์การทำงานของ iCloud ได้ รวมถึงมีการประกาศเกี่ยวกับ Advanced Data Protection ที่เป็นการทำงานในรูปแบบ End-to-End Ecrypted ใน Cloud Storage ซึ่งทั้งหมดถูกอัปเดตไว้ใน iOS 16.2 และถูกใช้งานภายในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Apple ได้มีการปล่อยอัปเดต iOS 16.3 ซึ่งมีฟีเจอร์เหล่านี้พ่วงมาด้วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ทั่วโลก สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ iOS 16.3 จะมี Emergency SOS call พร้อมกับการตั้งค่าพื้นหลังหน้าจอ iPhone

ภาพ Apple

นอกจาก iOS 16.3 จะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย ยังมาพร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ของ Homepod Minis โดยมันจะมีสัญญาณตรวจจับความร้อนที่ทำงานโดยอัตโนมัติ โดยสามารถตั้งค่าการใช้งานผ่านเสียง ให้ตรวจหาบุคคลภายในบ้านหรือ Find My devices ได้ ได้ด้วย โดยสามารถทำการอัปเดตได้โดยการเข้าไปที่แอป Home > Home Setting > Software Update

ภาพ Apple

นอกเหนือฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ถูกนำเข้ามาในระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ยังมีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบปฏิบัติการก่อนหน้านี้ด้วยเช่นเดียวกัน ยังมีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบปฏิบัติการก่อนหน้านี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดย iOS 16.3

  • แก้ไข Horizontal Line ของ iPhone 14 Pro Max
  • แก้ไข Home Lock Screen widget ที่ไม่แสดงบนแอป Home
  • แก้ไข Siri ที่ไม่ตอบสนองเมื่อมีการขอให้เปิดเพลง
  • แก้ไข Siri เพื่อรับคำสั่งผ่าน Carplay ให้ดีมากยิ่งขึ้น

ใครที่ต้องการดาวน์โหลด iOS 16.3 สามารถดาวน์โหลดได้เลยตอนนี้

นอกจากเรื่องซอฟต์แวร์แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัท Apple ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Macbook ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล M2 ที่มีประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า M1 แน่นอนว่าต้องมีราคาสูงกว่า ใครอยากดูรายละเอียดสามารถกดได้ที่ลิงก์นี้ Apple และสำหรับใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอการมาถึงของ iPhone 15 ทาง Apple จะมีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ในส่วนของราคาก็มีการคาดเดากันไว้ว่า iPhone 15 จะมีราคาที่ใกล้เคียงกับ iPhone 14 เมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่น

ข้อมูลจาก The Verge , PhoneArena

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

เปิดตัว iPhone 14 น่าซื้อมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับ iPhone 13

เปิดตัว iPhone 14 น่าซื้อมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับ iPhone 13

บริษัท Apple จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในทุก ๆ ปี และเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่นั่นก็คือ iPhone 14 นั่นเอง ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่ผู้บริโภคต่างให้การรอคอย ที่สำคัญเลยก็คือโทรศัพท์รุ่นใหม่ของ Apple จะวางจำหน่ายในประเทศไทยหนึ่งสัปดาห์หลังจากการเปิดตัวเพราะว่าประเทศไทยได้กลายเป็นประเทศ Tier 1 ซึ่งก็คือเป็นประเทศแรก ๆ ที่ทาง Apple จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

เปรียบเทียบสเปคระหว่าง iPhone 14 และ iPhone 13

ภาพ Apple

สำหรับผู้ที่ใช้งานโทรศัพท์ iPhone คงจะรู้ดีว่าราคาของมันมีราคาแพงอย่างมากและโทรศัพท์บางรุ่นก็สามารถใช้งานได้ยาวนานมากกว่า 1 ปี ทำให้บางครั้งเราไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ทุกปีก็ได้ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ของ Apple นั้น และกำลังเลือกอยู่ว่าจะซื้อ iPhone 13 หรือ iPhone 14 ที่เป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ดี ก็มาลองดูการเปรียบเทียบสเปคของเครื่องทั้ง 2 รุ่นกันดีกว่า โดยจะเปรียบเทียบกันในรุ่นปกติ

สเปคiPhone 13iPhone 14
หน้าจอ Super retina XDR (OLED) 6.1 นิ้ว Super retina XDR (OLED) 6.1 นิ้ว 
รีเฟรชเรต 60 Hz 60 Hz
CPUA-15 Bionic + CPU 4 coreA-15 Bionic + CPU 5 core
RAM4GB 6GB
ความจุ 128 GB/ 256 GB/ 512 GB 128 GB/ 256 GB/ 512 GB
กล้องหน้า 12 MP (F/2.2)12 MP (F/1.9) AF
กล้องหลังกล้องหลัก 12MP (f/1.8)   กันสั่น Sensor-Shift OIS  Ultra-Wide 12MP (f/2.4)กล้องหลัก 12MP (f/1.5)   กันสั่น Sensor-Shift OIS  Ultra-Wide 12MP (f/1.8)
การถ่ายวีดิโอ4K 60fps, Cinematic mode 1080p 30fps4K 60fps, Cinematic mode 4K 30fps เพิ่ม Action mode
แบตเตอรี่3,227 mah3,279 mah
ขนาด146.7 x 71.5 x 7.7 มม.  / 174 กรัม146.7 x 71.5 x 7.8 มม.  / 172 กรัม
ราคา29,900 บาท32,900 บาท

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ iPhone 14

ภาพ Apple

เมื่อเปรียบเทียบสเปคของ iPhone 14 ธรรมดากับ iPhone 13 ธรรมดาแล้วเรียกได้ว่ามีสเปคที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมากแต่สำหรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีอยู่ใน iPhone 14 จะมีอะไรกันบ้างนั้น มาดูกันดีกว่า

ภาพ Apple

iPhone 14 สามารถเปลี่ยนรูปร่างของหน้าจอ Lock Screen ได้ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแนวเลย ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวไม่มีอยู่ใน iPhone รุ่นก่อนเลยก็ว่าได้ สำหรับในเรื่องของความปลอดภัย iPhone 14 สามารถตรวจจับการชนและสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ และใครที่เป็นสายถ่ายวิดีโอหรือ Vlog ระบบกันสั่นใน Action mode ของโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ก็ทำให้ถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้น รวมถึงการถ่ายภาพโทรศัพท์รุ่นนี้มีเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้การถ่ายภาพมีสีสันที่สวยงามมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องรุ่นใหม่นี้จะใช้งานกับระบบปฏิบัติการ iOS 16 ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น รายละเอียดของ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max สามารถติดตามได้ที่ Apple.com

ย้ำกันอีกครั้งว่าประเทศไทยกลายเป็นประเทศต้นๆ ของโลกที่จะมีการวางขายiPhone 14 โดยเริ่ม Pre-order ในวันที่ 9 กันยายน แล้วจะวางจำหน่ายในวันที่ 16 กันยายน

ข้อมูลจาก Apple, Droidsans, Beartai

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ข่าวคราวของ iOS 16 ระบบปฏิบัติการใหม่ iPhone

ข่าวคราวของ iOS 16 ระบบปฏิบัติการใหม่ iPhone

ภาพ Pexels

ในทุก ๆ ปีบริษัท Apple จะมีการปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาให้พวกเราได้ใช้งานกัน ซึ่งหลายคนก็คงตั้งหน้าตั้งตารอว่าในปีนี้นี้นั้น Apple จะออกผลิตภัณฑ์ใดออกมาให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจกันบ้าง แต่นอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วสิ่งหนึ่งที่ Apple มีอัปเดตตลอดทุกปีก็คือระบบปฏิบัติการทั้งของ iPhone iPad รวมไปถึง Mac ซึ่งระบบปฏิบัติการของ Apple นั้นจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยในปีนี้สำหรับ iPhone แล้วระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่เตรียมพร้อมจะออกมาให้ผู้ใช้งานได้อัปเดตกันก็คือ iOS 16

ภาพ Pexels

ในช่วงนี้โทรศัพท์ iPhone เริ่มมีการแจ้งเตือนให้มีการอัปเดตระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง iOS 15.5 ในอนาคตก็จะมีระบบปฏิบัติการ iOS 16 ออกมาให้ได้ใช้งานกันสำหรับ iPhone และ iPad โดย iPad จะเป็น iPadOS 16 ซึ่งระบบปฏิบัติการทั้งคู่อาจจะเปิดตัวในงาน WWDC 2022 ซึ่งเป็นงานอีเว้นท์ที่ทาง Apple จัดขึ้นทุกปี โดยในปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายนสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะถูกเปิดเผยในงานดังกล่าวก็คือระบบปฏิบัติการ MacOS ของเครื่อง Mac , WatchOS ของนาฬิกา Apple Watch และอาจจะมีการเปิดตัวฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่อย่างชิป M1 ตัวใหม่ด้วย กลับมาพูดถึงระบบปฏิบัติการ iOS 16 มีข่าวลือเกี่ยวกับวันเปิดให้ดาวน์โหลดรวมไปถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้วยซึ่งทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในงาน

ภาพ Pexels

มีความเป็นไปได้ว่าระบบปฏิบัติการiOS 16 จะมีการเปิดให้ใช้งานในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งทาง พร้อมกับเครื่อง iPhone รุ่นใหม่ตัวอย่างเช่นเมื่อปีที่ผ่านมา Apple ได้มีการปล่อย iOS 15 ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็น 1 สัปดาห์หลังจากที่งานเปิดตัว iPhone 13 ได้ถูกจัดขึ้นและในปีนี้ iPhone 14 ก็จะมีการเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนเป็นไปได้ว่า iOS 16 จะมีการปล่อยให้อัปเดตหลังจากนั้น

ภาพ Pexels

นอกจากวันปล่อยให้อัปเดตของระบบปฏิบัติการ iOS 16 แล้วหลายคนคงจะมีคำถามว่า “ระบบปฏิบัติการรุ่นนี้สามารถใช้กับ iPhone รุ่นเก่าได้หรือไม่” สำหรับ iOS 15 นั้นสามารถใช้ได้กับเครื่อง iPhone 6s ที่เปิดตัวมาในปี 2015 ได้อย่างลื่นแต่สำหรับ 16 นั้นได้มีการยืนยันจากเว็บไซต์ iPhonesoft ว่าระบบปฏิบัติการตัวนี้จะใช้ได้กับเครื่อง iPhone ที่ใช้ชิปประมวลผล A10 ขึ้นไปทำให้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่จะออกมาในปีนี้นั้นสามารถใช้กับ iPhone 7 ขึ้นไปเพียงเท่านั้นสำหรับ iPhone 6 ไม่ว่าจะเป็น 6S, 6S Plus และ iPhone SE ที่เปิดตัวในปี 2016 จะไม่สามารถใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่นี้ได้

ข้อมูลจาก Cnet

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Apple เพิ่มเสียงใหม่ให้ Siri

Apple เพิ่มเสียงใหม่ให้ Siri

ถ้าเราใช้อุปกรณ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod, iPad หรือว่าจะเป็นเครื่อง Mac เราทุกคนคงต้องรู้จัก Siri อย่างแน่นอน

Siri เป็นผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงที่อยู่คู่กับอุปกรณ์ของ Apple มาอย่างยาวนานโดยมันสามารถช่วยให้การทำงานบนอุปกรณ์ของ Apple เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้นเลยทีเดียว มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ใช้โทรศัพท์ iPhone และใช้งาน Siri อยู่เป็นประจำ โดยปัจจุบันนี้ Siri ก็ได้ถูกพัฒนามาจากเมื่อก่อนมากมายเลยและล่าสุดสำหรับผู้ที่ใช้งาน iOS 15.4 ผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงอย่าง Siri ก็จะมีเสียงใหม่มาให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้งานกันแล้ว

Apple

iOS 15.4 ถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไปของ Apple โดยสิ่งที่เป็นไฮไลท์ก็คือเสียงของ Siri เสียงใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาเป็นเสียงที่ 5 แล้วโดยจะเป็นเสียงของผู้หญิงที่ใช้สำเนียงอเมริกัน โดย Steve Moser ผู้พัฒนาระบบ iOS ให้ชื่อของเสียงที่ 5 นี้ว่า “Quinn”

ซึ่งทางเว็บไซต์ Axios ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเสียง Siri ใหม่นี้ไว้ด้วยว่าเสียงใหม่นี้จะมีไม่มีการระบุเพศเหมือนกับเสียง Siri ที่ถูกนำเข้ามาก่อนหน้านี้ ซึ่งทาง Apple ก็ได้ยืนยันว่าผู้ที่มาให้เสียง Siri เสียงที่ 5 นี้เป็นคนในกลุ่ม LGBT+ ซึ่งทาง Apple ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลไปมากกว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นบุคลิกลักษณะต่าง ๆ ทาง Apple เป็นบริษัทที่สนับสนุนความเป็นมนุษย์มากเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องความหลากหลายทางเพศหรือเรื่องสีผิวก็ตาม ในปีที่แล้วก็ให้คนผิวสีเข้ามาให้เสียงของ Siri

Apple

อย่างไรก็ตามเสียง Siri เสียงใหม่นี้จะเป็นเสียงภาษาอังกฤษเพียงเท่านั้นสำหรับคนที่ใช้โทรศัพท์ไอโฟนในประเทศไทยก็คงต้องใช้เสียงSiri เสียงเก่าไปก่อน สำหรับภาษาไทยนั้นเสียงของ Siri จะเป็นเสียงผู้หญิงซึ่งเป็นเสียงพื้นฐานที่ทางระบบตั้งค่าไว้นั่นเอง

Apple

นอกจาก iOS 15.4 นั้นจะมีการอัปเดตเสียงใหม่ของ Siri แล้วในเวอร์ชันทดสอบยังมีการอัปเดตในเรื่องของ AirTags anti-stalking อีกด้วยโดยระบบดังกล่าวจะเป็นการใช้งานร่วมกับ Air Tag อุปกรณ์ติดตามของ Apple ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งาน Airtag ใช้อุปกรณ์ในการติดตามผู้คนซึ่งมันเป็นเหมือนการสะกดรอยตามนั่นเอง เพราะว่ามันกลายเป็นปัญหาอย่างมากเลยทีเดียวเมื่อคนใช้งาน Airtag ผิดวิธี บริษัท Apple สร้าง Airtag มาเพื่อวัตถุประสงค์ในการค้นหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานอาจจะวางลืมไว้และหาไม่เจอเป็นต้น แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้ผิดวิธีโดยใช้มันในการสะกดรอยตามคนซึ่งมันเหมือนเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนั้นเองทาง Apple จึงได้พัฒนาระบบ AirTags anti-stalking ขึ้นมานั่นเอง

ภาพจาก Pixabay

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ข้อมูลจาก The Verge

iPhone นวัตกรรมเปลี่ยนโลก

iPhone

iPhone นวัตกรรมเปลี่ยนโลกเกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

ในช่วงที่เราใช้โทรศัพท์ที่เป็นปุ่มกดเราคงไม่มีทางคิดถึงได้เลยว่าในปัจจุบันนี้โทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารหรือส่งข้อความจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากมายถึงขนาดนี้ ในปัจจุบันนี้โทรศัพท์ปุ่มกดแล้วแทบจะไม่เห็นกันแล้วบริษัทส่วนใหญ่หันมาใช้โทรศัพท์ที่เป็นระบบสัมผัส ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากกว่าสามารถทำประโยชน์ได้มากกว่าไม่ว่าจะเป็นใช้ในการติดต่อสื่อสาร เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นำทาง หรือแม้แต่ในเรื่องของความบันเทิง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของโทรศัพท์จากปุ่มกดมาเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ระบบสัมผัสเกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

ในวันที่ 9 มกราคมปี 2550 ผู้ชายที่มีชื่อว่า Steve Jobs  ได้เปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบไปโดยสิ้นเชิงโดยการเปิดตัวโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มีชื่อว่า iPhone รุ่นแรก ในตอนนั้นเพียงแค่เราได้เห็นโทรศัพท์เปลี่ยนจากปุ่มกดเป็นระบบสัมผัสเราก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจมากแล้วแต่นี่ยังสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตและทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมขึ้นไปอีก ที่สำคัญเลยก็คือ iPhone เปลี่ยนให้บริษัทหลายๆบริษัทหันมาใช้เทคโนโลยีระบบสัมผัสด้วยปลายนิ้วแทนที่จะใช้ปุ่มกดในโทรศัพท์มือถือ และทำให้ทั้งโลกตอนนี้รู้จักสมาร์ทโฟน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันบริษัท Apple ก็ได้มีการพัฒนา iPhone มาทั้งหมด 13 รุ่น ด้วยความที่ Apple สามารถดึงสำลีใหม่ๆเข้ามาใน iPhone รุ่นใหม่ๆได้ทำให้ iPhone ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่า Steve Jobs จะไม่ได้อยู่แล้วก็ตามที

ในวันแรกที่ Steve Jobs เปิดตัว iPhone รุ่นแรกนั้นบริษัท Apple มีมูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 

174.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ และด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและออกเทคโนโลยีใหม่ๆให้ผู้บริโภคได้ใช้งานกันอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ ปีทำให้บริษัท Apple ในปัจจุบันนี้มีมูลค่ามากกว่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย เรียกว่าเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วมากเลยทีเดียว 

เมื่อมาเทียบเนื้อเรื่องของราคา iPhone รุ่นดั้งเดิมนั้นมีราคาอยู่ที่ 499 เหรียญสหรัฐสำหรับเครื่องความจำ 4 GB  แต่ในปัจจุบันนี้ iPhone 13 Pro Max ที่เป็นโทรศัพท์ที่ทันสมัยมากที่สุดมีราคาอยู่ที่ 1099 เหรียญสหรัฐสำหรับ 256 GB  เรียกว่าราคาต่างกันมากมหาศาล

โทรศัพท์ iPhone จะเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมของโลกแล้วยังทำให้เกิดเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆอีกมากมายเลยทีเดียวในรูปแบบของแอปพลิเคชัน ในตอนนั้นเรายังไม่รู้จัก Facebook Instagram หรือว่า Twitter เลยด้วยซ้ำ การมาถึงของ iPhone ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นมามากมาย  ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นมามากมาย เรียกว่าโทรศัพท์ iPhone เป็นจุดกำเนิดที่ทำให้ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีนั้นก้าวล้ำทันสมัยมากขึ้นและการติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นจริง ๆ

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet 

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ เทคโนโลยีรอบโลก 
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Apple Watch ไม่สามารถใช้งาน Uber ได้

Apple Watch

นาฬิกา Smart Watch ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันก็คือ Apple Watch 

นาฬิกา Smart Watch ถือเป็นเทคโนโลยีที่ติดข้อมือของใครหลายคนอยู่ตอนนี้ด้วยความสามารถที่สามารถทำอะไรได้หลากหลายและที่สำคัญยังสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อีกด้วยทำให้บางครั้งเราไม่จำเป็นที่ต้องใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นบางแอปเลยซึ่งมันสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานเป็นอย่างมากหนึ่งในนาฬิกา Smart Watch ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันก็คือ Apple Watch 

Apple Watch เป็นนาฬิกาที่ถูกผลิตโดยบริษัท Apple นั้นเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ผ่านการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก App Store ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแอปพลิเคชัน Uber

Uber เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ในการเรียกรถเพื่อใช้ในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ มีความปลอดภัยในการใช้งานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่ง Uber อาจจะไม่นิยมในประเทศไทยมากนักแต่เป็นที่นิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ถ้าให้เปรียบเทียบกับแอปพลิเคชันในลักษณะเดียวกันในประเทศไทยก็เปรียบเสมือน Grab นั่นเอง 

ที่สำคัญเลยก็คือ Uber แอพพลิเคชั่นยอดนิยมที่ควรมีติด Apple Watch ไว้เพราะว่ามันสะดวกต่อการใช้งานและสามารถใช้งานได้รวดเร็วกว่าการใช้งานบนแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยสามารถแตะเรียกรถบริเวณหน้าจอของนาฬิกา Apple Watch ได้แถมยังสามารถติดตามดูเส้นทางได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็คงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ใช้งาน Uber  ผ่าน Apple Watch อย่างแน่นอน แต่ก็ดูเหมือนว่าในตอนนี้แอปพลิเคชัน Uber  ไม่รองรับการทำงานบน Apple Watch เสียแล้ว โดยเรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยจาก 9to5Mac ซึ่งเป็นสื่อข่าวทางด้านเทคโนโลยี 

เมื่อมีการเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น Uber ผ่านนาฬิกา Apple Watch  จะมีข้อความแสดงขึ้นมาว่า “กรุณาเปลี่ยนไปใช้งานแอพพลิเคชั่น Uber บนโมบายแอป พวกเราไม่ได้รองรับการทำงานบน Apple Watch ขออภัยในความไม่สะดวก” (ภาษาอังกฤษ : “Please switch to the Uber mobile app. We no longer supporting the Apple Watch app. Sorry for the inconvenience”)

ซึ่งทาง Uber ก็ไม่ได้มีการประกาศถึงเหตุผลเกี่ยวกับการยกเลิกรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่น Uber แต่อย่างได้และก็ไม่รู้ว่าจะมีการประกาศออกมาในอนาคตหรือไม่เพิ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเพราะว่าถ้าอ้างอิงจาก App Store แอพพลิเคชั่น Uber  พึ่งมีการอัพเดทบน Apple Watch เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้เอง 

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเรื่องนี้อาจจะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากนักเพราะว่าประเทศไทยนิยมใช้งานแอพพลิเคชั่น Grab  เสียมากกว่าแต่คงส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานต่างประเทศที่อาจจะไม่สามารถใช้งานได้สะดวกดังเดิมแต่ก็คงจะเป็นผลกระทบเพียงเล็กน้อยเพราะอย่างไรก็ตามก็สามารถเข้าผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet 

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook