ครีเอเตอร์ในแพลตฟอร์ม YouTube กำลังเผชิญกับปัญหาการถูกผู้ไม่หวังดีแฮกช่องเพื่อใช้ในการทำวัตถุประสงค์หลอกลวง โดยล่าสุดช่องที่ถูกแฮกไปมีชื่อว่า “Linus Tech Tips” โดยช่องดังกล่าวเป็นช่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรีวิวอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มีผู้ติดตามมากกว่า 15.3 ล้านผู้ติดตาม โดยในปัจจุบันได้ถูกแฮกเกอร์เปลี่ยนชื่อช่องและใช้ช่องในการไลฟ์สตรีมโปรโมทเหรียญคริปโตที่เป็นสแกม นอกจากนี้ยังมีช่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีช่องอื่นๆ ที่อยู่ในเครือของ Linus Media Group ถูกแฮกด้วยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Techquickle และ TechLinked

หลังจากที่ครีเอเตอร์ที่เป็นเจ้าของช่องดังกล่าวรู้ตัวแล้วว่าช่องของตนถูกแฮกไปก็ได้มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของ Google เพื่อหาทางออกร่วมกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งรวมถึงช่องอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่าการแฮกครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่การที่ Password และ 2 FA ถูกเจาะ ซึ่งปัญหานี้ YouTube ต้องรีบหาทางแก้ไข และก็ได้มีครีเอเตอร์รายหนึ่งบอกว่ามีสปอนเซอร์ปลอมส่งไฟล์มาให้ดาวน์โหลด และเมื่อมีการดาวน์โหลดไฟล์นั้นมันก็จะมีไวรัสที่จะสามารถควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์จากในระยะไกลได้ทำให้ช่องใน YouTube สามารถถูกยึดไปได้นั่นเอง
ภาพ Pixabay/B_A
โดย 1 ปีที่ผ่านมามีช่องใน YouTube ถูกแฮกไปไม่น้อยเลยทีเดียวตัวอย่างเช่นช่องของกองทัพสหราชอาณาจักรได้ถูกยึดเพื่อใช้ในการหลอกลวงการลงทุนเหรียญคริปโต หรือแม้แต่ที่เป็นข่าวดังมากที่สุดสำหรับ YouTube นั่นก็คือการถ่ายทอดสดงาน Apple Event ซึ่งเป็นการถ่ายทอดสดเพื่อหลอกลวงเอาเงินคริปโตเคอเรนซี่ โดยการถ่ายทอดสดดังกล่าวเป็นการปลอมแปลงจากแฮกเกอร์ นอกจากนี้ก็ยังมีช่องของคนดังมากมายถูกแฮกเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่ไม่ดีอีกมากมาย

ด้วยปัญหาเหล่านี้ YouTube ควรจะมีมาตรการป้องกันตัวอย่างเช่นโหมดล็อกดาวน์สำหรับคนที่มีผู้ติดตามเยอะ คือเมื่อมีการเข้าใช้จากเว็บเบราว์เซอร์หรือสถานที่อื่น ๆ จะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อ, ลบวิดีโอ หรือ ทำการถ่ายทอดสดได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อมีการเข้าใช้งานจากสถานที่อื่น ๆ ให้มีการส่งแจ้งเตือนไปหาผู้ใช้งาน เพื่อให้มีการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง เป็นการช่วยให้เจ้าของช่องสามารถเรียกคืนช่อง YouTube ได้ทันก่อนที่จะถูกแฮกไป นอกจากนี้ YouTube ควรเพิ่มระบบ Guardian System คือเมื่อมีการลบวีดีโอ, มีการเปลี่ยนชื่อช่อง หรือทำการเพิ่ม 2 FA จำเป็นที่จะต้องได้รับการยืนยันจากอีกหนึ่งบัญชีด้วยถึงจะดำเนินการได้ ซึ่งวิธีการนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยกำจัดปัญหานี้ไปได้ไม่มากก็น้อย
สุดท้ายแล้วก็ต้องติดตามดูว่า YouTube จะมีการอัปเดตอะไรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเหล่า ครเอเตอร์และผู้ใช้งานบ้าง เพราะถ้าปล่อยให้ปัญหานี้มีมากขึ้น ความนิยมของแพลตฟอร์มคงจะลดลงอย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก The Verge
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook