Google Photo สิ้นสุดการเป็นฟรี Storage

Google Photo

สำหรับผู้ที่ถ่ายรูปเป็นประจำและถ่ายรูปเป็นจำนวนมากจำเป็นที่จะต้องมีคลังไว้สำหรับเก็บรูป ซึ่งก็มีในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแฟลตไดฟ์ คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ และอื่น ๆ แต่ส่วนมากนั้นในปัจจุบันนี้ที่ทุกๆ อย่างนั้นสามารถจัดเก็บบนโลกออนไลน์ได้ทุกๆ คนก็มักจะนำรูปที่ถ่ายมาไปเก็บไว้บน Cloud เสียมากกว่าและคลังเก็บรูปที่ทุกคนนิยมใช้กันมากที่สุดนั่นก็คือ Google Photo

Google Photo เป็นคลังเก็บรูปออนไลน์พี่ให้บริการสำหรับผู้ที่ใช้บัญชี Gmail เท่านั้นซึ่งความพิเศษของมันก็คือเป็น Cloud ที่สามารถเก็บรูปได้ไม่อั้น ไม่จำกัดความจุในการเก็บรูปเหมือนกับเว็บไซต์อื่น ๆ ทำให้ผู้คนนิยมใช้ Google Photo เป็นที่สำหรับเก็บรูปออนไลน์ยิ่งในปัจจุบันแล้ว Google Photo นั้นสามารถซิงค์กับโทรศัพท์มือถือได้ทำให้ทุกครั้งที่มีการถ่ายรูปบนโทรศัพท์มือถือรูปที่อยู่ในเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเราจะเชื่อมต่อกับ Google Photo โดยตรงทำให้เรานั้นไม่ต้องอัปโหลดรูปลง Google Photo เลย นอกจากนั้นแล้วยังสามารถเพิ่มความจุบนเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟนโดยลบรูปเก่าออกไปจากเครื่องของเราแต่ว่ารูปทั้งหมดนั้นได้นำไปเก็บไว้ใน Google Photo แล้วทำให้จะไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ ด้วยลักษณะเด่นที่เป็นแพลตฟอร์มให้บริการฟรีทำให้ Google Photo นั้นเป็นที่นิยม

แต่ว่าทาง Google ที่เป็นผู้พัฒนา Google Photo จะสิ้นสุดการให้บริการฟรี หลังจากวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดย Google Photo หนังจะจำกัดความจุอยู่ที่ 15 GB เพียงเท่านั้น และให้ผู้ที่ใช้บริการไปใช้ Google One (Google One คือ Cloud Storage ใหม่ที่ Google ได้พัฒนาขึ้นเมื่อปี 2018) เป็น Cloud Storage ที่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้ใช้บริการนั้นสามารถเก็บข้อมูลได้มากถึง 100 GB โดยชำระค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน 70 บาทต่อเดือนเพียงเท่านั้น 

Google One สามารถ Backup ได้ทั้งรูปภาพ, คลิปวิดีโอ, ข้อความ รวมไปถึงเบอร์ติดต่อโดยอัตโนมัติสำหรับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งในปัจจุบันนี้สามารถดาวน์โหลด Google One บนสมาร์ทโฟนได้แล้วและยังมีให้บริการบนเว็บเบราว์เซอร์ด้วย 

สำหรับผู้ที่ใช้งาน Google Photo ในตอนนี้และได้เก็บรูปไว้เป็นจำนวนมาก Google จะส่งอีเมลแจ้งเตือนไปให้ถ้าหากว่าใช้พื้นที่ใกล้เต็มความจุแล้ว และเพื่อเก็บความจุ 15 GB เพื่อน ๆ ก็สามารถลบรูปภาพที่ไม่จำเป็นออกไปได้ 

#GooglePhoto #GoogleOne #Google #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก Cnet:Google Photos is ending unlimited free storage Tuesday. Here’s everything you need to do

Cnet: Google One 101: Price, storage limits and how it’s different from Google Drive

ภาพจาก Canva

แอปพลิเคชัน “พรรณนา” ช่วยคนตาบอดดูหนังได้

พรรณนา

พื่อก้าวข้ามอุปสรรคอันเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการได้ยิน การพูด หรือการมองเห็น จึงมีหลายกลุ่มที่ได้ช่วยกันร่วมกันคิดค้นและพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อนำไปใช้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและให้สามารถดำเนินชีวิตได้สะดวกมากขึ้นอย่างเช่นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อคนตาบอด ที่จะนำเสนอในวันนี้

ทำความรู้จัก แอปพลิเคชั่น “พรรณนา” (PANNANA)

แอปพลิเคชั่น ที่พัฒนาขึ้นโดยคนไทย ที่รวมมือกันหลายส่วน ของ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด, บริษัท กล่องดินสอ จำกัด และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสายตาสามารถดูหนัง และชมสื่อโสตทัศน์ได้อย่างมีอรรถรส ด้วยการจินตนาการร่วมกับการบรรยาเสียง โดยมีแรงบันดาลใจ ต่อยอดมาจาก แอปพลิเคชั่น shazam แอปพลิเคชั่นค้นหารายการเพลงด้วยเสียง ถือเป็นแอปพลิเคชั่นชมภาพยนตร์สำหรับผู้พิการทางสายตาที่ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

แอปพลิเคชั่น”พรรณนา” (PANNANA) คืออะไร

แอปพลิเคชั่นพรรณนา (Pannana)  คือ แอปพลิเคชั่นที่ใช้เสียงบรรยายภาพให้ผู้มีปัญหาทางการมองเห็นให้สามารถสสร้างภาพจินตนาการด้วยการบรรยายภาพด้วยเสียง แอปพลิเคชั่นพรรณนา (Pannana)  จะมีรายการลิสต์เสียงบรรยายภาพของภาพยนตร์ ละคร รายการโทรทัศน์ต่าง ๆ ไว้ให้ผู้พิการทางการมองเห็น เลือกชมได้

วิธีการทำงานของ แอปพลิเคชั่นพรรณนา (Pannana)  คือ เปิดดูภาพยนตร์ และเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นพรรณนาพร้อมกับเปิด AD =เสียงบรรยาย  ผู้พิการทางการมองเห็นจะฟังเสียงของรายการที่กำลังดูอยู่ แล้วเชื่อมต่อเข้ากับข้อมูลที่เก็บไว้ และเริ่มเล่นเสียงบรรยายภาพของช่วงเวลาหนัง ละคร หรือรายการโทรศัทน์ ที่กำลังรับชมซึ่งสามารถใช้แอปพลิเคชั่นนี้เมื่อใดก็ได้ ที่ต้องการ เช่นเข้าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ ดูโทรทัศน์ ดีวีดี ฯลฯ กับเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวได้

  ความเจ๋งของแอปพลิเคชั่นพรรณนาคือทำให้เกิดความสะดวกกับผู้พิการทางการเห็นที่จะสามารถใช้แอปพลิเคชั่นนี้ที่ใด เมื่อใดก็ได้ นอกจากจะมอบความบันเทิงแล้ว ยังทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมลดข้อด้อยด้านการมองเห็นลงได้ เพราะเขาสามารถเดินเข้าโรงภาพยนตร์พร้อมกับพ่อ แม่ ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงได้เหมือนคนตาดี ซึ่งสร้างความมั่นใจอย่างหนึ่งให้กับชีวิตเขาด้วยความรู้สึกได้ด้วยเพียงแค่เสียบหูฟัง เพื่อฟังเสียงบรรยายภาพจากภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

สำหรับโมบายแอปลิเคชั่น “พรรณนา” สามารถใช้ได้กับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และระบบปฏิบัติการไอโอเอส เวอร์ชั่น 9.2 เป็นต้นไป

สำหรับคะแนนที่แอปพลิเคชั่นนี้ได้รับโหวตจากผู้ใช้งาน และคำรีวิวจะผู้ใช้งานแล้ว แอปพลิเคชั่น พรรณนา (Panana) ได้รับถึง 4 ดาวเลยทีเดียวนับว่าเป็นแอปพลิเคชั่นที่สุดยอดเลยทีเดียว

ตอนนี้มีรายการโทรศัทน์หลายช่องที่เป็นเครื่องค่ายดิจิตอล ที่ร่วมมือกันเปิดระบบเสียงบรรยาภาพ (ระบบ AD ) เพื่อให้ผู้มีปัญหาทางการมองเห็นได้รับชมรายการต่าง ๆ ภาพยนตร์ ละคร และข่าวสาร ได้อย่างทั่วถึง นับเป็นแอปพลิเคชั่นเพื่อคนพิการที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียวคะ

#พรรณนา #PANNANA #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

วางแผนการเดินทางด้วย Google Map

Google Map

Google Map เป็นแอปพลิเคชันนำทางที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Google ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนี้ เมื่อก่อนนั้นเวลาที่จะเดินทางไปไหนเรามักจะใช้แผนที่เพื่อจะนำทางไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ว่าในปัจจุบันนี้เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรา Google Map จึงกลายเป็นตัวแทนของแผนที่ในอดีต ด้วยประโยชน์ของมันที่หลากหลายทำให้การเดินทางในชีวิตของเรานั้นสะดวกและง่ายดายมากขึ้น และที่สำคัญนอกจากการใช้ในประเทศ Google Map ยังสามารถนำไปใช้ในต่างประเทศได้อีกด้วย

โดยล่าสุดในงาน Google I/O ก็ได้มีฟีเจอร์ใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาใน Google Map เพื่อให้นักเดินทางนั้นสามารถวางแผนการเดินทางได้ดีมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากระบบนำทาง ทุกคนเวลาเดินทางมักจะหงุดหงิดหรือว่าหัวเสียมากเวลารถติดไม่ว่าจะเดินทางไกลหรือว่าเดินทางใกล้ ซึ่งปัญหาการจราจรนั้นเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ยากมากทาง Google จึงได้เพิ่มระบบการนำทางที่ดีมากยิ่งขึ้นเข้าไปใน Google Map โดยระบบอัจฉริยะนี้จะเลือกเส้นทางที่ทำให้นักเดินทางสามารถเดินทางได้อย่างราบเรียบและไม่ต้องหงุดหงิดกับการจราจรที่ติดขัด นอกจากจะไม่ทำให้นักเดินทางนั้นหงุดหงิดแล้วยังสามารถทำให้นักเดินทางไปถึงสถานที่ต่าง ๆ ได้เร็วมากยิ่งขึ้น 

ไม่เพียงเท่านั้นทาง Google ยังอัปเดตระบบที่สามารถบ่งบอกความแออัดของคนไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารสถานที่ต่าง ๆ ระบบนี้จะตอบโจทย์ในการเลือกเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แน่นอนว่าทุกคนนั้นไม่ชอบสถานที่ที่มีคนแออัดหรือจะอยู่กันเป็นจำนวนมาก ยิ่งในช่วงเวลาที่การแพร่ระบาดของโรคโควิดยังไม่หมดไปแล้ว ระบบนี้จะช่วยได้มากเลยทีเดียว นอกจากนั้นระบบนี้ยังมีแง่ดีในเรื่องของการเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไป เพราะมันสามารถบ่งบอกถึงสถานที่ที่คนไปเป็นจำนวนมากทำให้เราสามารถเลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้แม่นยำมากขึ้น

ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงระบบที่ใช้ในการเดินทางและการขับขี่เพียงเท่านั้น ทาง Google Map ยังเพิ่มรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไปในแผนที่อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดทางม้าลาย ซอยแคบ ๆ เพื่อให้ผู้ที่เดินทางโดยเท่านั้นสามารถเลือกเดินทางได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำมากขึ้น โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ยังไม่ได้อัปเดตเข้าไปในแอปพลิเคชัน Google Map โดย Google จะมีการอัปเดตระบบใหม่นี้ในช่วงปลายปีนี้และจะมีการนำมาใช้ในบางพื้นที่เพียงเท่านั้น 

ในปัจจุบันนี้ Google Map ก็มีประโยชน์กับนักเดินทางมากแล้วในอนาคตข้างหน้าอันใกล้คงจะทำให้การเดินทางนั้นคล่องตัวและสะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนเลย

ดูลักษณะการอัปเดตระบบ Google Map ได้ที่ Cnet

#GoogleMap #Google #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก Cnet

ภาพแต่งจาก Canva

หลุด! รูปร่างหน้าตาโทรศัพท์ iPhone 13

iPhone 13

โทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นโทรศัพท์ที่ในยุคนี้ทุกคนต่างต้องมีติดตัว เนื่องจากเป็นโทรศัพท์ที่สามารถอำนวยความสะดวกได้อย่างไรมากไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง ความรู้ เนื้อหาข่าวต่างๆ ก็สามารถหาได้โดยแค่ปลายนิ้วสัมผัส และโทรศัพท์พี่ผู้คนนิยมใช้มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกก็คือโทรศัพท์ iPhone ของบริษัท Apple

Apple เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลกที่พัฒนาเทคโนโลยีออกมาไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตามก็จะได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง และโทรศัพท์ iPhone ก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ไม่ว่าออกมากี่รุ่นก็ตามก็จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีออกมาแล้วทั้งหมด 12 รุ่น ซึ่งเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาทางบริษัทเองก็ได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รวมไปถึง iPhone 12 สีม่วงในงานที่มีชื่อว่า Spring loaded ที่ถูกเปิดเผยผ่านทางช่อง Apple บน Youtube และกำลังมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่ในปัจจุบันนี้ แต่ว่าผู้คนก็ยังรอคอยให้ iPhone 13 นั้นถูกเปิดตัวออกมาเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ นั่นเอง สำหรับ iPhone 13 นั้นมีการคาดการณ์ว่าจะได้รับการเปิดตัวมาในช่วงเดือนกันยายนปี 2564 นี้ แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็ได้มีช่อง YouTube ช่อง 1 ได้ทำการอัปโหลดคลิปวิดีโอ เกี่ยวกับ iPhone 13 ซึ่งเป็นการเปิดเผยถึงรูปร่างหน้าตาของตัวเครื่อง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้างนั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่คลิปนี้เลย lasted iphone 13

สำหรับสเปคของตัวเครื่องนั้นก็คาดการณ์ว่าจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า iPhone 12 รวมไปถึงประสิทธิภาพของกล้องด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ราคาของเครื่อง iPhone 13 นั้นก็ไม่ถูกคาดการณ์ว่าจะมีราคาที่ไม่แตกต่างไปจาก iPhone 12 นอกจากสเปคของเครื่องและราคาแล้วสีสันของเครื่องถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งเลยที่ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราเลือกซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 13 ซึ่งก็ได้มีภาพหลุดออกมาว่า iPhone 13 นั้นจะมีสีชมพูซึ่งเป็นสีสันใหม่ของเครื่อง iPhone เลยก็ว่าได้

แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่ว่าวันนี้ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาของเครื่องสเปกของเครื่องรวมไปถึงราคาและสีสันยังคงเป็นแค่การคาดการณ์ ในวันเปิดตัวช่วงเดือนกันยายนอาบจะมีหลาย ๆ สิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่จะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์มากแค่ไหนก็คงต้องอดใจรอให้ทางบริษัท Apple เปิดตัว iPhone 13 อย่างเป็นทางการนั้นเอง

#iPhone13 #iPhone #Apple #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก EverythingApplePro E A P, Techradar

ภาพจาก EverythingApplePro E A P , Techy Preacher

งานอีเว้นท์ Google I/O กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

Google I O 2021

เฉกเช่นเดียวกับบริษัท Apple ที่จะมีงานอีเว้นท์ที่ใช้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รวมไปถึงพูดถึงแผนการที่จะมีในอนาคต บริษัท Google เองก็มีงานอีเว้นท์ที่สำหรับใช้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เช่นเดียวกันโดยมีชื่อของ อีเว้นว่า Google I O 2021

Google I O เป็นงานประจำปีของบริษัท Google ที่โดยปกติแล้วจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศสหรัฐรัฐแคลิฟอร์เนียเมืองซานฟรานซิสโกแต่ว่าในปีที่ผ่านมางานอีเว้นท์ก็ต้องถูกระงับไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดและในปีนี้งานก็ได้ถูกจัดขึ้นอีกครั้งในรูปแบบออนไลน์เช่นเดียวกับงานอีเว้นท์ล่าสุดของบริษัท Apple เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ภายในงาน Event Google I O นั้นจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากมายซึ่งในปีนี้ก็มีการคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็น Hardware และ Software ซึ่งก็เป็น Eventสิ่งที่น่าติดตามมาก ๆ สำหรับผู้ใช้งานโทรศัพท์ Android

โดยเฉพาะผู้ใช้งานโทรศัพท์ Google Pixel เพราะภายในงานจะมีอาจจะมีการพูดถึงระบบปฏิบัติการ Android 12 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะถูกนำมาใช้งานกับ Google Pixel นั่นเอง Android 12 ได้ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาในรูปแบบของ Developer Preview ซึ่งสามารถหาอ่านข้อมูลเบื้องต้นได้จากลิงก์นี้เลย Droidsan.com

นอกจากระบบปฏิบัติการ Android 12 แล้วยังมีระบบซอฟต์แวร์อื่น ๆ เช่น WearOS ที่เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้กับ Smart Watch ก็อาจจะมีการพูดถึงในงาน Google I O 2021 นี้ด้วยเช่นเดียวกัน รวมไปถึง อาจจะพูดถึงฟีเจอร์ใหม่ของ Google Service อีกด้วย

พูดถึง Software ไปหมดแล้วก็มาดูทางฝั่ง Hardware บ้าง ในงานนี้อาจจะมีการเปิดตัวโทรศัพท์ Google รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Google Pixel 5a ซึ่งจะมีการเปิดตัวในปีนี้ และเมื่อมีโทรศัพท์รุ่นใหม่อย่าง Google Pixel 5a ก็ต้องมีหูฟังรุ่นใหม่ด้วยเช่นเดียวกันโดยเป็นหูฟัง Bluetooth ที่มีชื่อว่า Pixel Buds A  A (ดูข้อมูล Pixel Buds A ได้ที่ 9to5Google)

ซึ่งได้มีการคาดการณ์ราคาว่าอยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์ถึง 150 ดอลลาร์ รวมไปถึงชิปประมวลผล Whitechapel (ชิปประมวลผล ใหม่ล่าสุดของ Google ที่ทางบริษัท google ได้ร่วมมือพัฒนากับบริษัทของ Samsung โดยจะมีใช้งานในโทรศัพท์รุ่น Pixel 6) ก็มีแนวโน้มจะถูกพูดถึงในงานนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามทั้งหมดมานี้ก็เป็นแค่การคาดการณ์เบื้องต้นว่าภายในงาน Google I O 2021 นั้นจะมีการพูดถึงสิ่งใดบ้าง

โดยเพื่อนๆ สามารถดูการถ่ายทอดสดงาน Event Google I O 2021 ได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 นี้ โดยงานจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่ถึง 12 ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้วซึ่งสามารถติดตามได้ที่ Google Developers

#Google #GoogloIO #GoogleIo2021 #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก ไทยรัฐ, Tomguides

ภาพจาก 9to5Google ,  Pixels

รัสเซียเริ่มต้นระงับความเร็วอินเทอร์เน็ตTwitter

Twitter

Twitter เป็นหนึ่ง platform Social Media ที่เป็นที่นิยมกันทั่วโลกด้วยความเร็วของข่าวสารและการเข้าถึงผู้คนที่มีชื่อเสียงได้ง่ายทำให้ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถรับข่าวสารได้อย่างเร็วที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีข้อดีในการรับข่าวสารได้อย่างรวดเร็วแต่ว่าก็มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ข่าวสารเหล่านั้นจะเป็นข่าวปลอมและก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ผู้คนใช้ทวิตเตอร์เป็นเครื่องมือในการโจมตีผู้อื่น 

ประเทศรัสเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีประชากรใช้ Twitter ในการสื่อสารแพร่กระจายข่าวที่มีความผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ทำให้ทางประเทศรัสเซียนั้นจำเป็นที่จะต้องเรียกร้องกับทางทวิตเตอร์ให้ระงับข่าวสารที่ส่อไปในทางผิดกฎหมายรวมถึงระงับการใช้งานบัญชีที่มีการเผยแพร่ข่าวสารเหล่านั้น แต่ดูเหมือนว่าทางทวิตเตอร์นั้นจะเพิกเฉยต่อคำเรียกร้องของประเทศรัสเซียและไม่มีการกระทำใดๆ ที่จะเป็นการลดหรือระงับข่าวสารที่เป็นข่าวผิดกฎหมายเลย ทำให้ทางประเทศรัสเซียนั้นจำเป็นต้องออกมาระงับความเร็วอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งาน Twitter โดยจะลดการใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ 100% จนไปถึงขั้นต่ำ 50% เพื่อให้ประชากรในประเทศเข้าถึงโซเชียลมีเดียนี้ได้น้อยลงทั้งในด้านการส่งข้อมูลภาพ โพสต์ รวมไปถึงข้อความ และถ้าหากยังมีการเผยแพร่ข่าวสารที่ส่อไปในทางผิดกฎหมายอีกแล้วละก็ไม่แน่ประเทศรัสเซียอาจจะมีการระงับการใช้งานทวิตเตอร์ในประเทศเลยก็เป็นได้ 

ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาจนกระทั่งทวิตเตอร์นัดต้องออกมาระงับการใช้งานบัญชีของอดีตประธานาธิบดีอย่างโดนัลด์ ทรัมป์เลยทีเดียวเพื่อไม่ให้เกิดภัยอันตรายเกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐกำลังมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่นั่นเอง นอกจากประเทศสหรัฐแล้วเมื่อมองกลับมาให้ใกล้กว่านั้นประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศที่คนนิยมเล่น Twitter และแน่นอนต้องมีทั้งข่าวจริงและข่าวเท็จอยู่ในนั้นด้วยเช่นเดียวกันจึงอยากจะบอกให้กับนักท่อง Social Network ทุก ๆ คนว่าทุกครั้งก่อนที่จะตัดสินเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งควรไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ไม่งั้นอาจจะเป็นผลเสียต่อใครหลายคนได้เลย เทคโนโลยีมีทั้งประโยชน์และโทษดังนั้นก็ควรเลือกใช้มันอย่างระมัดระวังมากที่สุด 

#Twitter , #เทคโนโลยีรอบโลก  , #getup-it.com

ภาพจาก Canva

ข้อมูลจาก RYT9.com

ผู้ใช้งาน Apple สามารถตั้งเสียงของ Siri ได้

Siri

Apple นั้นมีผลิตภัณฑ์มากมายไม่ว่าจะเป็น iPhone iPod หรือ iPad และอื่น ๆ โดยในเครื่องทุกเครื่องนั้นจะมีตัวช่วยภายในเครื่องที่เรารู้จักกันในชื่อ Siri 

โดยตัวของ Siri นั้นจะช่วยให้การทำงานบนผลิตภัณฑ์ของ Apple ทำได้ง่ายมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้ปลายนิ้วของเราสัมผัสกับตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการโทรออก การค้นหาข้อมูล การตั้งค่าภายในเครื่อง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งโดยปกติแล้วเสียงของตัวผู้ช่วยอย่าง Siri นั้นจะเป็นเสียงผู้หญิงและเป็นเสียงที่ตั้งค่าเริ่มต้นของตัวเครื่องทุกเครื่องจากโรงงาน 

แต่ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้นสามารถเลือกเสียงให้กับ Siri ได้แล้ว โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาบริษัท Apple ได้ออกมารายงานว่าโทรศัพท์รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นั้นจะสามารถเลือกเสียงของ Siri ได้ ระหว่างเสียงของผู้ชายและเสียงของผู้หญิง และยังมีสำเนียงให้เลือกถึง 6 สำเนียงเลย แต่ว่าค่าพื้นฐานในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นจะเป็นเสียงผู้หญิง ส่วนในประเทศอังกฤษนั้นจะเป็นเสียงผู้ชาย นอกจากนี้ทางบริษัท Apple นั้นยังได้เพิ่มเสียงใหม่ให้กับ Siri ถึง 2 เสียงด้วยกัน 

โดยการเปลี่ยนแปลงเสียงของ Siri นี้จะนำเข้ามาในระบบปฏิบัติการ iOS 14.5 Beta และยังมีการอัปเดตระบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเทียบระบบสุขภาพแบตเตอรี่รวมไปถึงชุดคำสั่งอื่น ๆ อีกมากมาย โดยตัวระบบ iOS 14.5 นั้นยังอยู่ในขั้นทดลองระบบปฏิบัติการและยังไม่เปิดมาให้ผู้บริโภคได้อัปเดตกัน โดยจะมีการอัปเดตในช่วงหลังของปีนี้อย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดูจะไม่ค่อยน่าตื่นเต้นมาสักเท่าไหร่กับการเปลี่ยนแปลงเสียงของผู้ช่วย Siri เนื่องจากบางคนแทบไม่ได้ใช้ตัวของผู้ช่วยนี้เลย แต่สำหรับบางคนก็ใช้ตัวผู้ช่วยของผลิตภัณฑ์จาก Apple เป็นประจำการที่มีอะไรแปลกใหม่เข้ามาก็คงจะทำให้รู้สึกถึงความแปลกใหม่ที่มีเข้ามาภายในตัวเครื่อง 

ในปัจจุบันนี้ระบบผู้ช่วยด้วยเสียงนับว่าเป็นอีกหนึ่งระบบที่ต้องมีอยู่ในเครื่องสมาร์ทโฟนแทบทุกเครื่องเลยก็ว่าได้ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าเป็นระบบที่ไม่สำคัญมากนักจนบางครั้งไม่ได้ใช้งานมันเลย แต่ในสถานการณ์บางสถานการณ์นั้นมันก็เป็นระบบที่สำคัญมาก ดังนั้นก็ควรที่จะฝึกใช้ระบบผู้ช่วยไว้บ้างนะครับหรืออย่างน้อยศึกษาไว้ก็ดีว่าตัวผู้ช่วยสามารถทำอะไรได้บ้าง ไม่แน่อาจจะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานสมาร์ทโฟนของเราก็เป็นได้

#Apple #Siri #IOS14.5Beta #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก CNN, IPhoneMod

CPALL รักธรรมชาติเปลี่ยนรถยนต์เป็น EV

7-11

รถยนต์ไฟฟ้าถือว่าเป็นนวัตกรรมที่กำลังเป็นที่ถูกพูดถึงในปัจจุบันนี้ หลาย ๆ บริษัทชั้นนำของโลกเริ่มหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์น้ำที่ใช้น้ำมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อรถยนต์ไฟฟ้า TESLA, MG, FORD เพื่อลดปัญหาสภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่คนทั้งโลกต้องช่วยกันหาทางแก้ไข และเพื่อเปลี่ยนพลังงานน้ำมันที่เป็นพลังงานใช้แล้วหมดไปให้กลายเป็นพลังงานทางเลือกอย่างพลังงานไฟฟ้า และแน่นอนว่าเมื่อบริษัทชั้นนำของโลกนั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง หลาย ๆ ประเทศก็เริ่มมีนโยบายที่จะเปลี่ยนรถยนต์ภายในประเทศให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แล้วประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า และได้มีการตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราการใช้รถยนต์ภายในประเทศให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

CPALL เป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนรถยนต์ขนส่งสินค้าจำนวน 7,000 คันให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยตอบรับกับนโยบาย 7 Go Green Mission 2021 ซึ่งในตอนนี้กำลังเจรจากับฝ่ายการผลิตอยู่ นอกจากนี้ยังจัดตั้งสถานีบรรจุไฟฟ้า 100 สถานีภายในปี 2021 นี้ 

การเปลี่ยนแปลงรถยนต์ขนส่งสินค้าของ 7 ในครั้งนี้จะสามารถช่วยลดพลังงานและลดต้นทุนการขนส่งของบริษัท นอกจากนี้ทางบริษัทนั้นยังตั้งเป้าไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 128,426 ตัน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้จำนวน 348,648 ต้น เลย

นอกจากบริษัท CPALL ตอนนี้ใน บอร์ด EV ของประเทศไทยได้มีการตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2578 และภายในปีเดียวกันนั้นรถยนต์ในประเทศไทยจะต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวน 15.5 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรถจักรยานยนต์และรถยนต์จำนวนมากที่สุด รองลงมาคือรถปิคอัพ และรถบัสและรถบรรทุกที่มีอัตราส่วนน้อยที่สุด นอกจากนี้ปั๊มน้ำมันหลาย ๆ แห่งก็เริ่มที่จะมีแผนจะสร้างสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นปตท. หรือใบจาก

ปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของโลกในตอนนี้เพราะในทุกปีโลกของเราก็ได้สะท้อนปัญหาให้เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นสภาวะไฟป่าธรรมชาติที่เกิดมากขึ้นทุกปี ฝุ่น PM 2.5 หรือแม้กระทั่งน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลายมากขึ้นเกือบทุกปีส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุกปี แล้วเมื่อน้ำทะเลเริ่มหนุนสูงมากขึ้นพื้นที่บางส่วนก็ถูกน้ำท่วม ดังนั้นในปัจจุบันเทคโนโลยีส่วนใหญ่ถึงได้ถูกผลิตออกมาเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนที่กำลังลุกลามมากขึ้นนั่นเอง โดยปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นปัญหาของทุกคน หากเราช่วยกันลดการปล่อยพลังงานมลพิษเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยโลกได้แล้ว

#CPALL #รถยนต์ไฟฟ้า #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก EfinanceThai : CPALL จ่อเปลี่ยนรถสินค้า 7,000 คัน เป็น EV – ฟาก EA รุกเจรจา

The Standard Weath

Stock2morrow

Cr.Wikimedia

ระบบเลือกเส้นทาง Google Map ลดการปล่อยมลพิษ

google

บริษัท Google บริษัทพัฒนา search engine อันดับต้น ๆ ของโลกนั้น กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันอย่าง Google Map ให้เลือกเส้นทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดให้กับผู้ขับขี่ โดยตัวแอปพลิเคชันจะนำข้อมูลจากการจราจรเพื่อมาสร้างเส้นทางที่รถของผู้ขับขี่นั้นจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้น้อยที่สุดโดยจะเริ่มใช้ในช่วงปลายปีนี้เริ่มต้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา 

โดยหลังจากการอัปเดตระบบนี้เข้าไปใน Google Map แล้ว ระบบจะทำการเลือกเส้นทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดโดยพื้นฐาน โดยผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ระบบจะคำนวณเส้นทางอื่น ๆ รวมไปถึงเส้นทางที่ใช้เวลาเร็วกว่าในการเดินทางให้ผู้ขับขี่ได้เลือกได้อีกด้วยและจะมีการเปรียบเทียบการปล่อยมลพิษของเส้นทางแต่ละเส้น 

ในบางประเทศนั้นจะมีโซนเฝ้าระวังอยู่ซึ่งในโซนเหล่านั้นจะเป็นโซนที่มีการปล่อยมลพิษน้อย ทำให้รถบางชนิดนั้นไม่สามารถขับผ่านไปได้ ซึ่งทาง Google ก็ได้มีการเตือนผู้ขับขี่ที่จะจำเป็นต้องใช้เส้นทางในโซนเฝ้าระหว่างตั้งแต่ในช่วงเดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมาแล้ว โดยประเทศที่มีโซนเฝ้าระวังได้แก่ ประเทศเยอรมัน ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักรเป็นต้น

ซึ่งในส่วนนี้ Google ต้องนำระบบไปพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อที่จะให้ระบบของ Google Map นั้นสามารถเตือนด้วยว่าผู้ขับขี่นั้นกำลังจะขับเข้าสู่โซนเฝ้าระวัง เพื่อที่จะให้อากาศในโซนเฝ้าระวังนั้นเป็นอากาศที่บริสุทธิ์หรือมีมลพิษน้อยที่สุดนั่นเอง

การพัฒนาระบบของ Google Map ในครั้งนี้นับว่าเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญเลยทีเดียวเพราะว่าในปัจจุบันนี้ Google Map ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่จะต้องมีติดเครื่องโทรศัพท์ไว้ในปัจจุบัน และยิ่งในเมืองใหญ่ ๆ การจราจรนั้นย่อมมีการติดขัด และเมื่อการจราจรติดขัดนั้นก็อาจจะทำให้รถนั้นปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่าปกติ การมีระบบดังกล่าวเข้ามาเสริมนี้อาจจะทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเมืองใหญ่ลดลงก็เป็นได้

ตอนนี้ทั่วทั้งโลกนั้นให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นอย่างมากเพราะว่ามันเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่ต้องช่วยกันแก้ไข ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นตัวอย่างเช่นการใช้ถุงผ้า หรือแม้กระทั่งรถยนต์ไฟฟ้าที่หลาย ๆ ประเทศนั้นกำลังผลักดันให้กลายมาเป็นรถยนต์ภายในประเทศให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามการที่บริษัทชั้นนำของโลกออกมาเป็นผู้นำเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ก็จะทำให้รายย่อยนั้นเริ่มหันมาสนใจในการแก้ปัญหานี้เช่นเดียวกัน ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ เพื่อมาแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนก็เป็นได้ แล้วถ้าหากทุกคนช่วยกันปัญหาสภาวะโลกร้อนก็จะเริ่มบรรเทาเบาบางลง 

#GoogleMap #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก BBC

Cr.Pixabay

ประเทศปากีสถานระงับการใช้งาน Tiktok

tiktok

ในโลกของเทคโนโลยีเรามีแพลตฟอร์มมากมายที่ใช้งานกันในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter Instagram รวมไปถึง YouTube

ซึ่งแต่ละแบบฟอร์มนั้นก็จะมีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไปอย่างเช่น Facebook จะใช้ในการติดต่อสื่อสารและแชร์ข่าวสารต่างๆ Twitter เป็นแอปพลิเคชันที่รับข่าวสารได้อย่างรวดเร็วที่สุด Instagram แหล่งรวบรวมรูปภาพของคนจำนวนมาก YouTube แหล่งเผยแพร่คลิปวิดีโอหลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็นเกม เพลง ความรู้ นอกจากแพลตฟอร์มที่พูดมาทั้งหมดยังมีอีก 1 แพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลกก็คือ Tiktok

Tiktok เป็นแอปพลิเคชันที่มีเอกลักษณ์ในตัวของมัน โดยผู้ที่ใช้งานจะสามารถอัปโหลดคลิปวิดีโอได้แค่ในระยะเวลาที่สั้นเพียงเท่านั้น แล้วด้วยความที่เป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้ Tiktok นั้นกลายเป็น App ยอดนิยมไปทั่วโลกในเวลาที่ไม่นาน แต่ก็เช่นเดียวกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ภายใน Application เนื้อหาที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมากรวมถึงยอดการรับชมที่สูง

แต่ก็จะมีเนื้อหาบางเนื้อหาที่มีเนื้อหาที่ส่อไปในทางผิดกฎหมายรวมไปถึงศีลธรรม และด้วยเหตุผลอย่างหลังทำให้ประเทศปากีสถานนั้นออกมาระงับการใช้งาน Tiktok ในประเทศ เนื่องจากมีเนื้อหาจำนวนมากที่เป็นเนื้อหาที่ผิดกฎหมายลามกอนาจารรวมไปถึงผิดศีลธรรม ซึ่งทาง Tiktok ก็เห็นด้วยที่จะพยายามจัดระเบียบบัญชีผู้ใช้งานให้เข้ากับกฎหมายในประเทศ สำหรับประเทศปากีสถานแล้วแอปพลิเคชันอย่าง Tiktok ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมในประเทศเลยทีเดียว นอกจากประเทศปากีสถานเราก็เคยเห็นประเทศสหรัฐอเมริกานั้นออกมาระงับการใช้งาน Tiktok เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัยเนื่องจากทางแอปพลิเคชันนั้นได้เชื่อมต่อกับประเทศจีน ภายหลัง Tiktok ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย อนาคตของ Tiktok จะเป็นอย่างไรก็คงต้องมาติดตามดูกัน 

นอกจาก Tiktok แล้วในช่วงระยะหลังเราจะเห็นได้ว่าในหลายประเทศนั้นได้มีการตื่นตัวกับเรื่องเนื้อหาที่ส่อแววไปในทางผิดกฎหมายมากขึ้นและออกมาระงับการใช้งาน Social Media ต่าง ๆ หรือไม่ก็ระงับบัญชีผู้ใช้งาน มากขึ้น เพื่อไม่ให้ใช้ Social Media ไปในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข่าวปลอม การปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความรุนแรง รวมถึงระงับการใช้งานเนื้อหาที่มีความรุนแรงด้วยเช่นเดียวกัน การกระทำเช่นนี้อาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่ก็ช่วยให้ Social Media นั้นเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่มากขึ้น 

#Tiktok #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก Gadgetsnow