Meta เปิดตัวเกมใหม่ใน Messenger Kids

meta-เปิดตัวเกมใหม่ใน-messenger-kids

ในปัจจุบันนี้คือสังคมออนไลน์เป็นสิ่งที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัยไม่เว้นแม้แต่ในวัยเด็กที่ในปัจจุบันวิธีการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพราะว่าผู้ปกครองบางส่วนก็ใช้เทคโนโลยีในการเลี้ยงลูกหรือว่าเลี้ยงหลาน ทำให้เด็กหลายคนรู้จักวิธีการใช้งานเทคโนโลยีและสามารถเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ได้ง่ายๆ แต่ว่าในสื่อสังคมออนไลน์นั้นเนื้อหาบางส่วนก็อาจจะยังไม่เหมาะกับเด็กซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพเด็กได้ ทำให้สื่อสังคมออนไลน์ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุดที่สามารถใช้ในการเลี้ยงดูแลเด็กได้

ภาพจาก Pixabay

และปัญหาสุขภาพจิตของวัยเด็กก็เป็นปัญหาที่ผู้พัฒนาสื่อสังคมออนไลน์ก็รับรู้เป็นอย่างดีและได้หาวิธีการแก้ไขเพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ที่อายุน้อยสามารถใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างอิสระและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดเลยก็คือบริษัท Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ที่ได้มีการพยายามพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับเด็กหนึ่งในนั้นก็คือ Messenger Kids ที่ได้มีการเปิดตัวมาเมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นแอปที่ใช้ในการพูดคุยสำหรับเด็ก กำลังจะมีการพัฒนา Instagram for Kids แต่ก็ถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จนทำให้ Project ต้องหยุดชะงักไปเสียก่อน

ซึ่งภายใน Messenger Kids ได้มีการเปิดตัวเกมใหม่ที่ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้วิธีการใช้งาน Messenger ได้ดีมากยิ่งขึ้นโดยเกมใหม่นี้มีชื่อว่า Pledge Planets ซึ่งเกมที่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยววชาญทางด้านความปลอดภัยและพัฒนาการในวัยเด็ก โดยให้คำนิยามเกมสั้น ๆ ว่า “ be kind, be respectful, be safe and have fun” (ภาษาไทย : ใจดี, ให้ความเคารพ, ปลอดภัย และสนุก) โดยในตอนแรกนั้นมีชื่อตอนว่า “ be kind” โดยจะมี 2 เกมด้วยกันเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้การโต้ตอบคือความใจดี

ภาพจาก The Verge

โดยลักษณะของเกม Pledge Planets เกมแรกมีชื่อว่า Rough Reviews ก็คือผู้เล่นจะต้องช่วยเจ้าของในการอ่านรีวิวและเลือกพิธีกรรมที่เหมาะสมในการโต้ตอบทางออนไลน์ โดยตัวเกมจะสอนให้เด็ก ๆ สามารถแยกแยะพฤติกรรมที่ดีและพฤติกรรมที่แย่ได้และจะสอนในการใช้เครื่องมือในการบล็อกหรือรายงาน อีกเกมคือ Order Up วิธีการเล่นก็คือผู้เล่นจะต้องสร้างแซนด์วิชอารมณ์Emoji ภายในเกมให้ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้านั่นเอง โดยเกมนี้จะสอนให้เด็กๆ เรียนรู้อารมณ์ของคู่สนทนาออนไลน์นั่นเอง

ภาพจาก Pixabay

ในปัจจุบันนี้ Messenger Kids มีให้ดาวน์โหลดทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS สำหรับพ่อแม่คนใดที่อยากให้ลูกเรียนรู้วิธีการในการโต้ตอบกับบุคคลต่าง ๆ บนโลกออนไลน์เกมในแอปพลิเคชันนี้ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ลูกเรียนรู้ได้ดีมากเลยทีเดียว

สำหรับ Instagram for Kids ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าอนาคตจะมีการพัฒนาออกมาไหมหรือจะเป็นการพับปิดโปรเจคไปและไม่มีการพัฒนาออกมาอีกเลย

ข้อมูลจาก The Verge

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ถึงเวลาพัก Instagram แนะนำฟีเจอร์ใหม่

Instagram

ถึงเวลาพัก Instagram แนะนำฟีเจอร์ใหม่ “ Take a Break”

สังคมออนไลน์อย่าง Instagram นั้นเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะเหล่าวัยรุ่นเพราะว่าแพลตฟอร์มนั้นสามารถใช้กันได้อย่างทั่วถึงและสามารถเข้าถึงบุคคลต่าง ๆ ได้ง่ายดายไม่ว่าจะเป็นดารา, คนดัง, นักกีฬา แลธบุคคลอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามชีวิตของบุคคลเหล่านี้ได้ง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาอื่น ๆ ให้ได้ติดตามกันอีกมากมายเลยทีเดียว

แต่แน่นอนว่าการขี้ใช้เวลาจำนวนมากไปกับสื่อสังคมออนไลน์นั้นบางครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานได้โดยเฉพาะทางด้านสุขภาพจิตอย่างที่ได้มีรายงานเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Instagram นั้นมีผลกระทบที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่นเพศหญิงเพราะว่าวัยรุ่นเพศหญิงนั้นมักจะมีการเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตากับบุคคลต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน Instagram นั่นเอง และด้วยการเข้าถึงได้ง่ายทำให้เยาวชนนั้นสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ด้วยเช่นเดียวกัน และด้วยการที่เป็นเยาวชนเนื้อหาบางเรื่องก็มีความรุนแรงเกินที่จะสามารถให้รับรู้ได้ ผู้พัฒนา Instagram จึงได้มีแนวคิดที่จะสร้าง Instagram สำหรับเด็กกินมาแต่ว่าก็ถูกคัดค้านและได้มีการพักโครงการไปเสียก่อน โดยในช่วงที่มีการพักโครงการ Instagram สำหรับเด็กนั้น ก็ได้มีการแนะนำฟีเจอร์ใหม่ที่จะถูกนำเข้ามาใส่ใน Instagram ในอนาคตโดยเป็นฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า “Take a Break”

“Take a Break” เป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยเหลือให้ผู้ใช้งานนั้นได้พักจากการเสพคอนเทนต์เดิม ๆ เป็นเวลานาน ๆ โดยฟีเจอร์นี้จะเข้ามาทำการเปลี่ยนคอนเทนต์ภายใน Instagram เมื่อค้นพบว่าเนื้อหาที่ผู้ใช้งานกำลังเสพหรือกำลังติดตามอยู่นั้นไม่ได้ส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้น

ซึ่งฟีเจอร์ “Take a Break” ได้มีการเปิดเผยเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาบนบล็อกของ Instagram ที่ได้มีการโพสต์โดย Adam Mosseri ผู้ที่เป็น Head ของ Instagram แต่อย่างไรก็ตามทาง Instagram นั้นไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่จะใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการและยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมแถมฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นยังไม่ได้ถูกทดสอบแต่จะมีให้ใช้งานแน่นอนในอนาคต

ฟีเจอร์ดังกล่าวเมื่อมีการเปิดใช้งานจริงก็คงจะช่วยลดความตึงเครียดในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Instagram ได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวเพราะว่าในปัจจุบันนี้ผู้คนใช้เวลาอยู่กับบนโลกออนไลน์แทบจะทั้งวันเลยก็ว่าได้และบางครั้งการได้รับเนื้อหาเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายและบางครั้งเนื้อหาที่มีความรุนแรงมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้

และถึงแม้ว่าทาง Instagram และ Facebook นั้นยังไม่ได้มีการออกมาพูดถึงการแก้ปัญหาสุขภาพจิตของผู้ใช้งานกันอย่างแน่ชัดก็ตามทีเดี๋ยวก็พยายามที่จะปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่าในอนาคตทาง Facebook และ Instagram นั้นจะสามารถทำสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองนั้นพัฒนาไปได้มาก

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Tiktok เพิ่มฟีเจอร์ใหม่

Tiktok

Tiktok เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต

ต้องยอมรับว่าสื่อสังคมออนไลน์นั้นมีข้อดีมากมายทำให้เราได้ติดตามข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว พูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ห่างไกลกัน ติดตามความบันเทิงต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเราใช้อุปกรณ์สื่อสารหรือสมาร์ทโฟนของเรานั้นส่วนใหญ่ไปกับการเสพสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้บางครั้งการที่เราได้รับข่าวสารมากมายเข้ามาซึ่งเป็นทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่ได้ดีมากนักก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้

แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้สื่อสังคมออนไลน์ในหลายแพลตฟอร์มก็ได้รับรู้ถึงปัญหาดังกล่าวและเร่งทำการแก้ไขหลังจากที่ Instagram นั้นได้รับผลวิจัยจาก Facebook ว่าแอปพลิเคชั่นนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและกำลังหาทางแก้ไข ทางสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังจากประเทศจีนอย่าง Tiktok ก็ได้มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อคนที่มีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่อย่างต่อเนื่องก็มีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตายทาง Tiktok จึงได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งตอนนี้ได้มีการอัปเดตให้ใช้ภายในแอปพลิเคชันแล้วโดยเมื่อผู้ใช้งานนั้นค้นหาคำว่า “Suicide” (ถ้าตัวตาย) ในช่องการค้นหา ทาง Tiktok จะมีการขึ้นเบอร์โทรศัพท์เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ไปปรึกษาเกี่ยวกับทางด้านสุขภาพจิต โดยในประเทศไทยเมื่อค้นหาถ้อยคำดังกล่าว ทาง Tikotok ก็จะขึ้นเบอร์โทรของกรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุขให้ เพื่อเป็นการให้คำปรึกษาสำหรับคนที่กำลังคิดสั้นนั่นเอง

ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้ก็คงจะช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตของผู้ใช้งาน Tiktok ได้ดีมากเลยทีเดียวเพราะก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมรับว่าผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในเรื่องของการเสพสื่อสังคมออนไลน์มากเกินไป และการออกฟีเจอร์ที่ช่วยเหลือเกี่ยวกับสุขภาพจิตขึ้นมานั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในตอนนี้สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Tiktok ก็ใส่ใจผู้ใช้งานไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว แล้วเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่า Tiktok กำลังเดินหน้าสร้างแพลตฟอร์มให้เหมาะกับการใช้งานและเป็นมิตรมากขึ้น

และในอนาคตเราคงจะได้เห็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ นั้นออกมาขยับเขยื้อนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาในเรื่องสุขภาพจิตของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นในตอนนี้ถ้าหากรู้สึกว่าเราใช้สื่อสังคมออนไลน์มากเกินไปและรู้สึกว่าสุขภาพจิตเรากำลังนั้นกำลังย่ำแย่ลง การกำหนดระยะเวลาใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยลดปัญหาดังกล่าว เพราะว่าในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าเราใช้เวลาอยู่กับโลกเสมือนจริงมากกว่าใช้เวลาอยู่กับโลกแห่งความจริงเสียอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ลองกลับมาใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งความจริงมากยิ่งขึ้นมีความสุขกับผู้คนที่อยู่รอบกายเรามากกว่ามีความสุขกับคนที่อยู่บนหน้าจอ และใช้เวลาในการทำกิจกรรมส่วนใหญ่บนโลกแห่งความจริงให้มากกว่าบอลโลกออนไลน์เพียงเท่านี้สุขภาพจิตเราก็คงจะดีขึ้นมากแล้ว

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก BBC

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ผลวิจัยของ Facebook

Facebook

ผลวิจัยของ Facebook ชี้ชัด Instagram ส่งผลเสียต่อวัยรุ่น

ในโลกที่ทันสมัยมาขึ้นทุกวัน การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นเพศใดอายุเท่าไหร่ก็ตาม ในโลกของออนไลน์สื่อสังคมออนไลน์ถือว่าเป็นสื่อหลักที่ผู้คนเข้าไปเสพข่าวสารต่างๆ รวมถึงแชร์เรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Instagram หรือทาง Facebook ซึ่งสื่อสังคมออนไลน์เหล่านี้ทำให้เราได้รับข่าวสารที่รวดเร็วทันใจรวมไปถึงได้แชร์เรื่องราวต่างๆ ไปให้เพื่อนๆ ได้รับรู้รวมไปถึงสามารถทำให้เราติดต่อสื่อสารกับผู้คนที่อยู่ห่างไกลได้เหนื่อยมากขึ้น

แต่ในเมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียซึ่งข้อเสียส่วนหนึ่งของสื่อสังคมออนไลน์ก็ส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุน้อย จากการวิจัยของ Facebook ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้ถูกเปิดเผยว่า Instagram สื่อสังคมออนไลน์ประเภทแชร์รูปและคลิปวิดีโอที่อยู่ในการดูแลของ Facebook นั้นเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นในเพศหญิง ซึ่งก็มีแนวโน้มว่า Instagram นั้นจะส่งผลกระทบในเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า Instagram นั้นมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นทำให้แก้ปัญหาดังกล่าวขึ้นมาได้

การมีสื่อสังคมออนไลน์ที่ทำให้สามารถติดต่อและติดตามผู้คนอื่นได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นส่งผลเสียให้เกิดการเปรียบเทียบกันระหว่างบุคคลซึ่งทำให้ผู้ใช้งานบางคนรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่ได้ดีเท่าคนอื่นทำให้สุขภาพจิตนั้นแย่ลงไปทุกครั้งที่มีการเข้าใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งทาง Instagram ก็ยอมรับว่าผลกระทบดังกล่าวเป็นผลเสียแล้วในปัจจุบันก็มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าในตอนนี้ Instagram นั้นยังไม่ใช่พื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน แต่แน่นอน Instagram นั้นก็กำลังเร่งหาทางแก้ไขและพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองให้ดีมากขึ้นและเหมาะกับการใช้งานทุกเพศทุกวัยมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น

ซึ่งทาง Facebook ที่เป็นบริษัทแม่และคอยดูแล Instagram อยู่นั้นก็ยังไม่ได้ออกมาบอกวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างแน่ชัดว่าจะมีการกระทำไปในทิศทางใด ถึงแม้ว่า Instagram นั้นจะพยายามที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มโดยการออกไอเดียต่างๆ มาก็ตามทีดูในอดีตก็มีไอเดีย Instagram สำหรับเด็ก หรือว่ามีระบบที่คอยตรวจสอบถ้อยคำหยาบคาย รวมไปถึงมีระบบที่จะตั้งค่าให้ผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีนั้นเป็นรูปแบบ “ส่วนตัว” เพื่อลดอัตราการมองเห็นจากบุคคลภายนอกนั้นเอง

ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าทาง Instagram นั้นกำลังเร่งแก้ไขปัญหาจริง ๆ และใส่ใจสุขภาพจิตของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงต้องมาติดตามดูว่าในอนาคตจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ดีมากแค่ไหน และจะทำให้แพลตฟอร์มของตนเองนั้นเติบโตต่อไปโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานได้อย่างไร

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Mission To the Moon , Cnet

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ “Limit” ป้องกันการบูลลี่

Instagram

ในสังคมของอินเทอร์เน็ตเป็นสังคมที่ผู้ใช้งานไม่มีตัวตนอยู่จริงซึ่งมันก็ยากที่จะควบคุม ทำให้อินเทอร์เน็ตนั้นมีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีปะปนกันไป และหนึ่งในสิ่งที่ไม่ดีนั้นก็คือการโจมตีกันบนโลกอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นการบูลลี่หรือการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวทำให้สังคมอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่และอาจจะทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ทำให้จำเป็นที่จะต้องมีการป้องกัน

โดย Instagram หนึ่งในแอปพลิเคชันคือ Facebook ได้มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า “Limit” ขึ้นมาโดยฟีเจอร์นี้จะสามารถอนุญาตให้ผู้ใช้งานนั้นปิด Comment ของผู้ที่ไม่ได้ติดตามหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มติดตามได้ เพื่อไม่ให้เจอข้อความที่เป็นการเหยียดเชื้อชาติหรือสีผิว หรือว่ามีการส่อว่าเป็นข้อความที่จะทำให้เกิดความเสียหาย โดยสามารถปิดกั้นได้ทางข้อความ และ Emoji อีกทั้งบริษัท Instagram ยังได้เพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะ ปิดกั้นผู้ใช้งานคนอื่นที่อาจจะกระทำการดังกล่าวได้ด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทั่วโลกโดยเข้าไปที่ Privacy Setting > Limit แล้วเปิดใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งแยกระหว่างผู้ที่ไม่ได้ติดตามและผู้ร่วมติดตามได้ด้วย โดยฟีเจอร์นี้จะทำงานจนกว่าผู้ใช้งานจะปิดการใช้งาน

ฟีเจอร์นี้ของ Instagram มีความจำเป็นอย่างมากหลังจากที่ฟุตบอลยูโร 2020 ได้จบลงและอังกฤษไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ผู้เล่นชาวอังกฤษหลายรายที่เป็นผิวสีได้ถูกโจมตีจากกลุ่มแฟนคลับโดยการเหยียดสีผิวซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับนักเตะ โดยนักเตะที่ได้ถูกโจมตีก็ออกมาเรียกร้องให้ทาง Social Media ต่าง ๆ นั้นช่วยกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมาอีก ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทาง Instagram ก็ได้ขอโทษแล้วว่าระบบนั้นทำงานไม่ดีมากพอที่จะยับยั้งเรื่องราวดังกล่าว

ในปัจจุบันนี้ทุกๆ คนนั้นใช้สื่อสังคมออนไลน์แทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียวและข่าวสารต่าง ๆ ก็ไหลผ่านให้เราเห็น บางครั้งก็อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับการอ่านคอมเมนต์หรือว่าเรื่องราวต่าง ๆ มากนักดังนั้นการรักษาสุขภาพจิตสุขภาพใจถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้เราได้เล่นสื่อสังคมออนไลน์อย่างมีความสุขและหนึ่งในวิธีการที่จะทำให้เราสามารถรักษาสุขภาพจิตของเราได้ก็คือการปิดกั้นการรับรู้เรื่องราวที่แย่ ๆ ต่าง ๆ ออกไปและรับรู้แต่เรื่องราวดี ๆ ดังนั้นถ้าหากว่าเพื่อน ๆ ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำก็ควรที่จะกำหนดเนื้อหาในการรับชมเพื่อที่จะไม่ทำให้การเข้าใช้งานนั้นมีความเคร่งเครียดมากเกินไป

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก BBC , Mashable

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  
เวปไซด์ getup-it.com