โดนัลด์ ทรัมป์ Social Media ของตัวเอง

โดนัลด์-ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของประเทศอเมริกาเปิดตัว Social Media ของตัวเอง

ที่รับรู้กันว่าอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอย่างโดนัลด์ ทรัมป์นั้นได้ถูกสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook และ Twitter ได้มีการระงับการใช้งานบัญชีของเจ้าตัวทำให้ตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ไม่สามารถเข้าใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้นั่นเอง โดยเหตุผลที่สื่อสังคมออนไลน์ประเภทต่าง ๆ นั้นพากันออกมาระงับบัญชีของอดีตประธานาธิบดีก็เพราะว่าในช่วงที่โดนัล

ทรัมป์นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอยู่นั้นและกำลังมีการเลือกตั้ง เขาได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสร้างข่าวปลอมและปลุกปั่นคนในประเทศสหรัฐเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความรุนแรงขณะที่มีการหาเสียงหรือขณะที่กำลังเลือกตั้งนั่นเอง ซึ่งเหตุผลดังกล่าวทำให้เราไม่ได้เห็นความเคลื่อนไหวของโดนัลด์ ทรัมป์มาตลอดหลายปี แต่ว่าเจ้าตัวเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยกับการถูกแบนจากสื่อโซเชียลมีเดียลายต่าง ๆ แม้แต่น้อย เขาได้มีการสร้างเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า DonaldTrump.com

โดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ได้มีข่าวออกมาว่าทางโดนัลด์ ทรัมป์จะมีการสร้างสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งจะกลายเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีเฉพาะกลุ่มผู้เห็นด้วยกับโดนัลด์ ทรัมป์เพียงเท่านั้น ซึ่งในตอนแรกมีการประกาศออกมาว่าจะเปิดตัวในช่วงปีที่แล้วแต่ดูเหมือนว่าจะมีการเปิดตัวในปีนี้แทน

Truth Social สื่อสังคมออนไลน์ของโดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหรือวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย Trump Media and Technology Group ได้มีการเปิดตัวสื่อสังคมออนไลน์ของโดนัลด์ทรัมป์ในชื่อว่า “ Truth Social ” ซึ่งเป็นแอปฟรีที่อยู่บน App Store ดูเหมือนว่าการเปิดตัวในครั้งนี้จะไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ เพราะว่าตัวแอปพลิเคชันมีบัคจำนวนมากไม่ว่าจะส่งข้อความไม่ได้แม่สามารถลงทะเบียนได้และปัญหาอื่นๆ แต่ว่า Truth Social ก็ได้กลายเป็นแอปพลิเคชันฟรีที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดบน App Store เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยบัญชีของโดนัลด์ ทรัมป์มีผู้ติดตามสูงถึง 50,000 คนเมื่อวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์

มีการคาดการณ์ว่าในวันอังคารมียอดดาวน์โหลดของแอปพลิเคชันสูงถึง 412,000 ดาวน์โหลดเลย แต่ก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับ Facebook หรือ Twitter ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพราะแอปพลิเคชันดังกล่าวคงเป็นแอปสังคมออนไลน์เฉพาะกลุ่มที่จะมีเฉพาะกลุ่มคนที่สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์เข้าไปใช้งาน

โดนัลด์ ทรัมป์

หลังจากนี้ก็ต้องดูว่าแอปนี้จะประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใดและโดนัลด์ ทรัมป์จะมีบทบาทอย่างไรในการเมืองสหรัฐ โดย Truth Social จะไม่มีให้ดาวน์โหลดใน App Store ไทย

ภาพทั้งหมดจาก Wallpaperaccess

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ข้อมูลจาก Cnet , Beartai

YouTube ต้องจริงจังกับการกำจัดเนื้อหาที่ข้อมูลไม่เป็นจริง

YouTube

องค์กรตรวจเช็คความจริงแนะ YouTube ต้องจริงจังกับการกำจัดเนื้อหาที่ข้อมูลไม่เป็นจริง

ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์เป็นโลกที่ไร้พรมแดนและผู้คนที่ใช้งานมีความสามารถที่จะสร้างเนื้อหาหรือ Content ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งการที่มี Content ออกมาได้อย่างรวดเร็วและมากมายทำให้ผู้คนสามารถติดตามข่าวสารได้อย่างใกล้ชิด แต่การที่ข่าวสารถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็วนั้นก็เป็นเหมือนดาบสองคม พวกเราได้รับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็วและพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ  แต่ว่าก็มีข่าวสารจำนวนไม่น้อยเลยที่เป็นข่าวที่มีข้อมูลไม่เป็นจริง ความรวดเร็วทำให้ความละเอียดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงลดลง ซึ่งก็อาจจะสร้างผลเสียให้กับผู้ที่ติดตามข่าวสารได้ ในปัจจุบันนี้สื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือว่า Twitter รวมไปถึงแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์อื่น ๆ ก็ถูกบังคับให้มีความเข้มงวดในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารให้ชัดเจนก่อนที่จะเผยแพร่ออกไปหรือทำการลบข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นจริงให้ได้มากที่สุดซึ่งสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ก็พยายามที่จะทำตามแต่ด้วยความที่มีปริมาณของข้าวสารเป็นจำนวนมากทำให้ไม่สามารถที่จะกำจัดปัญหานี้ให้หมดไปได้

Youtube เป็นอีกหนึ่งสื่อสังคมออนไลน์ที่ผู้คนใช้ในการอัปโหลดคลิปวิดีโอและดูคลิปวิดีโอต่าง ๆ มากมาย ซึ่งปัจจุบันก็คงจะบอกได้ว่าเราดู YouTube มากกว่าทีวีที่บ้านเราเสียอีก ด้วยข่าวสารต่าง ๆ มากมายเหล่านี้ YouTube ก็เจอกับปัญหาข่าวสารที่มีข้อมูลที่ไม่เป็นจริงเช่นเดียวกัน โดย Youtube ได้ถูกตรวจสอบโดยองค์กรตรวจสอบความจริงทั่วโลกและได้มีการแนะนำให้ YouTube นั้นเริ่มจริงจังกับการนำข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงออกจากแพลตฟอร์ม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาองค์กรตรวจสอบความจริงมากกว่า 80 องค์กรด้วยการได้มีการส่งจดหมายไปให้กับ CEO ของ Youtube พร้อมกับแนบลิสต์ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาให้ด้วย

หลังจากที่ได้รับจดหมายดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยทางโฆษกของทาง Youtube ก็ได้ออกมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ด้วยเช่นเดียวกัน “เครื่องมือตรวจสอบความจริงนั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ชมตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง แต่ว่ามันก็เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญเช่นเดียวกันที่จะช่วยระบุถึงที่อยู่ของข้อมูลที่ผิดพลาด” และเขายังบอกอีกด้วยว่า “ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาพวกเราลงทุนไปกับนโยบายและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในทุก ๆ พื้นที่ ที่อยู่ในการดูแลของเรา เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงข่าวสารต่าง ๆ ลดข่าวสารที่มีข้อมูลที่ไม่เป็นจริงและคลิปวิดีโอที่มีความรุนแรง เพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ใน YouTube ที่เป็นเนื้อหาที่ผิดพลาดและละเมิดกฎซึ่งภายหลังก็ถูกลบออกจากแพลตฟอร์ม” 

ไม่ว่าจะเป็นสื่อสังคมออนไลน์ประเภทไหนปัญหาในเรื่องของการควบคุมข้อเท็จจริงข่าวสารก็ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่หลาย ๆ แพลตฟอร์มให้การความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะทุกแพลตฟอร์มต้องการที่จะเผยแพร่เนื้อหาที่มีความถูกต้องให้กับผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุดซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่าพวกเขาจะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet 

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Twitter เพิ่มฟีเจอร์ใหม่

Twitter

Twitter เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ “Soft Block”

Twitter เป็นสื่อสังคมออนไลน์รูปแบบหมุนที่ถ้าหากว่าผู้ใช้งานต้องการที่จะติดตามเนื้อหาประเภทใดก็ตามจะต้องทำการติดแฮชแท็กเพื่อทำการค้นหาเนื้อหาประเภทนั้น ๆ นอกจากนี้ยังติดตามคนที่สามารถเผยแพร่เนื้อหาดังกล่าวได้อีกด้วยทำให้ Twitter นั้นเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่ได้ถูกปิดกั้นมากนักแต่ก็ยังมีเครื่องมือไว้ให้สำหรับผู้ใช้งานในการควบคุมดูแลผู้ติดตามของตัวเองได้ด้วยเช่นเดียวกันเพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานนั้นต้องเจอกับปัญหาในการใช้งานต่าง ๆ นั่นเอง

บางครั้งผู้ที่มาติดตามก็อาจจะเข้ามาติดตามเพื่อปั่นป่วนหรือกลั่นแกล้งซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถใช้งาน Twitter ได้อย่างมีความสุขซึ่งผู้ใช้งานก็มีสิทธิ์ที่จะปิดกั้นผู้ติดตามที่เข้ามากระทำการดังกล่าวได้เช่นเดียวกันแต่บางครั้ง การปิดกั้นผู้ติดตามหรือการบล็อกผู้ติดตามก็อาจจะรุนแรงไปเสียหน่อยสำหรับในเรื่องบางเรื่องทาง Twitter จึงได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า “Soft Block”

“Soft Block” เป็นฟีเจอร์ที่มีลักษณะคล้ายกับการบล็อกผู้ติดตามเหมือนกันแต่ว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าโดยผู้ติดตามที่ถูก Soft Block จะไม่สามารถเห็นเนื้อหาของผู้ที่กำลังติดตามอยู่ได้บนหน้า News feed ของทวิต แต่อย่างไรก็ตามพวกเขายังสามารถจะส่งข้อความไปหาผู้ที่กำลังติดตามอยู่ได้ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นเนื้อหาต่าง ๆ ก็ตามที แถมผู้ที่ถูก Soft Block จะไม่ได้รับการแจ้งเตือนว่าถูกปิดกั้น ถึงแม้ว่าเขากำลังติดตามอยู่ก็ตามที ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นช่วยให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถที่จะควบคุมดูแลผู้ที่ติดตามผู้ใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ “Soft Block” ได้ถูกนำมาใช้งานหลังจากที่ได้มีการทดลองเป็นระยะเวลา 1 เดือน

จากฟีเจอร์ “Soft Block” แล้ว Twitter ก็ได้มีการออกเครื่องมือที่จะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญหน้ากับข้อความที่มีความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการเหยียบเชื้อชาติสีผิวหรือการคุกคามต่าง ๆ โดยเป็นเครื่องมือในรูปแบบ The heads-up tool ที่จะคอยเตือนให้ผู้ใช้งานพูดคุยกันด้วยความสุภาพ โดยได้มีการทดสอบทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ซึ่งฟีเจอร์ได้มีการออกมาในช่วงเวลาเดียวกับที่ Twitch แพลตฟอร์ม Stream ชื่อดังที่ออกเครื่องมือมาเพื่อป้องกันการคุกคามสำหรับสตรีมเมอร์

การที่เราเข้าสู่โลกสังคมออนไลน์นั้นทำให้เราได้พบเจอกับคนมากมายซึ่งก็เป็นทั้งเพื่อนและคนที่เพิ่งรู้จักรวมถึงคนที่ไม่รู้จัก ทำให้เราไม่สามารถรู้นิสัยของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดได้ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาถ้าหากว่าไม่ได้มีการควบคุมดูแลบางคนเข้ามาทำความรู้จักเพื่อเป้าหมายอะไรบางอย่างบางคนเข้ามาเพื่อปั่นป่วนหรือกลั่นแกล้งการที่สื่อสังคมออนไลน์มีเครื่องมือที่สามารถควบคุมดูแลเรื่องเหล่านี้ได้ก็คงจะทำให้การใช้งานสื่อสังคมออนไลน์นั้นมีความปลอดภัยมากขึ้น

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดตัว Social Media ใหม่

โดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา

โดนัลด์ ทรัมป์อดีตประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศเปิดตัวสื่อสังคมออนไลน์ใหม่โดยใช้ชื่อว่า “Truth Social” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะใช้ในการต่อต้านบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ (stand up to the tyranny of Big Tech)

โดย The Trump Media and Technology Group (TMTG) ได้มีการประกาศออกมาว่าจะมีการเปิดให้ใช้บริการในเวอร์ชัน Beta ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2022 โดยบริษัท TMTG ได้มีการร่วมมือกับบริษัท Digital World Acquisition Group เพื่อสร้างบริษัทใหม่และมีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานบริษัท

โดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมากล่าวว่า “เขาได้สร้าง Truth Social และ TMTG เพื่อต่อต้านยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี เราอยู่ในโลกที่พวกตาลีบันมีตัวตนอยู่บนโลกของทวิตเตอร์ แต่ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีจะนิ่งนอนใจกับมัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้แบ่งปันความคิดของฉันผ่าน Truth Social และต่อสู้กับยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยี”

โดยข่าวการสร้างสื่อสังคมออนไลน์เป็นของตัวเองนั้นได้เปลี่ยนเขามาตั้งแต่ในช่วงเดือนมีนาคมและหลังจากเดือนมีนาคมได้ประมาณ 2-3 เดือนโดนัลด์ ทรัมป์ก็ได้มีการสร้างบล็อกส่วนตัวของตนเอง และก็ถูกปิดไปหลังจากนั้น 1เดือน โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ได้ถูกแบนจากสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่าง Facebook และ Twitter เนื่องจากมีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม โดนัลด์ทรัมป์ได้ใช้ Twitter ในการสร้างข่าวปลอมต่าง ๆ ในเรื่องของการเมือง โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว Twitter ได้มีการสั่งระงับการใช้งานบัญชีของโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมเป็นต้นมาให้เหตุผลในการระงับบัญชีว่า “มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดความรุนแรง” โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้มีการเรียกร้องผู้พิพากษาท้องถิ่นให้เขาได้กลับมาใช้ Twitter ของเขาดังเดิม แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีความคืบหน้าในตอนนี้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ยังไม่สามารถใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Twitter และ Facebook ได้

โดนัลด์ ทรัมป์ถือว่าเป็นนักการเมืองและอดีตประธานาธิบดีที่ต้องการให้ประเทศสหรัฐนั้นมีอำนาจกว่าประเทศอื่นที่อยู่บนโลกตัวอย่างเช่นประเทศจีนทำให้โบนัสถามหลานพยายามที่จะระงับสินค้าและบริการต่าง ๆ จากประเทศจีนอย่างสม่ำเสมอซึ่งคำสั่งที่โดนัลด์ ทรัมป์มีการสั่งแบนสินค้าและบริการจากประเทศจีนก็เลยถูกระงับโดยโจ ไบเดนประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าในเรื่องของการเมืองการปกครองทุกคนนั้นมีความคิดที่ไม่เหมือนกันแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือต้องการให้ประเทศมีการพัฒนา ก็ต้องติดตามดูว่าหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้มีการเปิดใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองอย่างเป็นทางการนั้นจะมีการช่วยเหลือประชาชนและช่วยเหลือประเทศอย่างไร รวมถึงทิศทางการเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาจะไปในทิศทางใด

ภาพจาก Wallpaperaccess

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Facebook พักการพัฒนา Instagram

Instagram

Facebook พักการพัฒนา Instagram สำหรับเด็ก

หลังจากที่ทาง Facebook คนพบว่าสื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มในเครือของตนเองอย่าง Instagram นั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนทำให้ Adam Mosseri ผู้ที่เป็นหัวหน้าของทางนั้นตัดสินใจที่จะเดินหน้าพัฒนาแอปพลิเคชัน Instagram สำหรับเด็ก

โดยสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับให้ได้เลยก็คือในปัจจุบันนี้มีเยาวชนมากมายที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์เข้าใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมากซึ่งเนื้อหาบางส่วนนั้นยังไม่เหมาะสมกับวัยเด็กทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบซึ่งทาง Instagram นั้นได้เห็นปัญหาดังกล่าวจึงตัดสินใจที่จะสร้าง Instagram สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีขึ้นมาซึ่งเนื้อหาภายในแอปพลิเคชันจะเป็นเนื้อหาที่แตกต่างกับเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน และ Instagram สำหรับเด็กจะอยู่ในการควบคุมดูแลของผู้ปกครอง ซึ่งได้มีประกาศออก เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาตั้งแต่ในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งในช่วงนั้นก็มีข่าวออกมามากมายเกี่ยวกับการต่อต้านไม่ให้พัฒนาแต่ด้วยความตั้งใจของทีมผู้พัฒนาทำให้แอปพลิเคชันดังกล่าวนั้นยังพัฒนาต่อไป แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ทาง Facebook จะได้พักการพัฒนาแอปพลิเคชันInstagram สำหรับเด็กออกไปก่อนเพื่อพัฒนาระบบ parental supervision tools

Adam Mosseri ยังบอกอีกด้วยว่า “ความตั้งใจของพวกเราไม่ใช่เพื่อสร้าง Instagram ในเวอร์ชันเดียวกับที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ ผู้ปกครองจะสามารถติดตามช่วงเวลาที่ลูกๆ ของพวกเขาใช้งาน Instagram อยู่และสามารถติดตามได้ว่าพวกเขานั้นส่ง Message ไปหาใครรวมถึงติดตามใครและใครติดตามเขา”

และแน่นอนว่าในขณะที่แต่ละคนกำลังมองเห็นถึงข้อเสียที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่แอปพลิเคชันดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นมาแต่ในช่วงนี้ทาง Instagram ก็ได้มีการทำงานกับผู้ปกครอง ผู้เชี่ยววชาญและผู้สร้างนโยบาย เพื่อที่จะทำให้แอปพลิเคชันนั้นมีคุณค่ามากพอสำหรับผู้ใช้

สุดท้ายแล้วก็ต้องติดตามดูกันว่า Instagram สำหรับเด็กนั้นจะเหมาะสมที่จะใช้งานสำหรับเด็กหรือไม่และจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากน้อยเพียงใด เพราะว่าสำหรับเด็กที่ยังไม่เข้าสู่วัยรุ่นการเข้าใช้แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์เป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้เสียสุขภาพจิตได้ง่ายและรวดเร็วกว่ากลุ่มวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ต้องดูว่าทางผู้พัฒนานั้นจะสามารถควบคุมเนื้อหาที่อยู่ในแพลตฟอร์มได้มากน้อยเพียงใดและภายใต้การดูแลของผู้ปกครองนั้นจะทำได้ดีมากแค่ไหน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Tiktok เพิ่มฟีเจอร์ใหม่

Tiktok

Tiktok เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต

ต้องยอมรับว่าสื่อสังคมออนไลน์นั้นมีข้อดีมากมายทำให้เราได้ติดตามข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว พูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ห่างไกลกัน ติดตามความบันเทิงต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ต้องยอมรับว่าเราใช้อุปกรณ์สื่อสารหรือสมาร์ทโฟนของเรานั้นส่วนใหญ่ไปกับการเสพสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้บางครั้งการที่เราได้รับข่าวสารมากมายเข้ามาซึ่งเป็นทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่ได้ดีมากนักก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้

แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้สื่อสังคมออนไลน์ในหลายแพลตฟอร์มก็ได้รับรู้ถึงปัญหาดังกล่าวและเร่งทำการแก้ไขหลังจากที่ Instagram นั้นได้รับผลวิจัยจาก Facebook ว่าแอปพลิเคชั่นนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตและกำลังหาทางแก้ไข ทางสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังจากประเทศจีนอย่าง Tiktok ก็ได้มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อคนที่มีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่อย่างต่อเนื่องก็มีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตายทาง Tiktok จึงได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งตอนนี้ได้มีการอัปเดตให้ใช้ภายในแอปพลิเคชันแล้วโดยเมื่อผู้ใช้งานนั้นค้นหาคำว่า “Suicide” (ถ้าตัวตาย) ในช่องการค้นหา ทาง Tiktok จะมีการขึ้นเบอร์โทรศัพท์เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ไปปรึกษาเกี่ยวกับทางด้านสุขภาพจิต โดยในประเทศไทยเมื่อค้นหาถ้อยคำดังกล่าว ทาง Tikotok ก็จะขึ้นเบอร์โทรของกรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุขให้ เพื่อเป็นการให้คำปรึกษาสำหรับคนที่กำลังคิดสั้นนั่นเอง

ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้ก็คงจะช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตของผู้ใช้งาน Tiktok ได้ดีมากเลยทีเดียวเพราะก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมรับว่าผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในเรื่องของการเสพสื่อสังคมออนไลน์มากเกินไป และการออกฟีเจอร์ที่ช่วยเหลือเกี่ยวกับสุขภาพจิตขึ้นมานั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในตอนนี้สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Tiktok ก็ใส่ใจผู้ใช้งานไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว แล้วเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่า Tiktok กำลังเดินหน้าสร้างแพลตฟอร์มให้เหมาะกับการใช้งานและเป็นมิตรมากขึ้น

และในอนาคตเราคงจะได้เห็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ นั้นออกมาขยับเขยื้อนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาในเรื่องสุขภาพจิตของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นในตอนนี้ถ้าหากรู้สึกว่าเราใช้สื่อสังคมออนไลน์มากเกินไปและรู้สึกว่าสุขภาพจิตเรากำลังนั้นกำลังย่ำแย่ลง การกำหนดระยะเวลาใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยลดปัญหาดังกล่าว เพราะว่าในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าเราใช้เวลาอยู่กับโลกเสมือนจริงมากกว่าใช้เวลาอยู่กับโลกแห่งความจริงเสียอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ลองกลับมาใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งความจริงมากยิ่งขึ้นมีความสุขกับผู้คนที่อยู่รอบกายเรามากกว่ามีความสุขกับคนที่อยู่บนหน้าจอ และใช้เวลาในการทำกิจกรรมส่วนใหญ่บนโลกแห่งความจริงให้มากกว่าบอลโลกออนไลน์เพียงเท่านี้สุขภาพจิตเราก็คงจะดีขึ้นมากแล้ว

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก BBC

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ผลวิจัยของ Facebook

Facebook

ผลวิจัยของ Facebook ชี้ชัด Instagram ส่งผลเสียต่อวัยรุ่น

ในโลกที่ทันสมัยมาขึ้นทุกวัน การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นเพศใดอายุเท่าไหร่ก็ตาม ในโลกของออนไลน์สื่อสังคมออนไลน์ถือว่าเป็นสื่อหลักที่ผู้คนเข้าไปเสพข่าวสารต่างๆ รวมถึงแชร์เรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Instagram หรือทาง Facebook ซึ่งสื่อสังคมออนไลน์เหล่านี้ทำให้เราได้รับข่าวสารที่รวดเร็วทันใจรวมไปถึงได้แชร์เรื่องราวต่างๆ ไปให้เพื่อนๆ ได้รับรู้รวมไปถึงสามารถทำให้เราติดต่อสื่อสารกับผู้คนที่อยู่ห่างไกลได้เหนื่อยมากขึ้น

แต่ในเมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียซึ่งข้อเสียส่วนหนึ่งของสื่อสังคมออนไลน์ก็ส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุน้อย จากการวิจัยของ Facebook ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้ถูกเปิดเผยว่า Instagram สื่อสังคมออนไลน์ประเภทแชร์รูปและคลิปวิดีโอที่อยู่ในการดูแลของ Facebook นั้นเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นในเพศหญิง ซึ่งก็มีแนวโน้มว่า Instagram นั้นจะส่งผลกระทบในเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า Instagram นั้นมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นทำให้แก้ปัญหาดังกล่าวขึ้นมาได้

การมีสื่อสังคมออนไลน์ที่ทำให้สามารถติดต่อและติดตามผู้คนอื่นได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นส่งผลเสียให้เกิดการเปรียบเทียบกันระหว่างบุคคลซึ่งทำให้ผู้ใช้งานบางคนรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่ได้ดีเท่าคนอื่นทำให้สุขภาพจิตนั้นแย่ลงไปทุกครั้งที่มีการเข้าใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งทาง Instagram ก็ยอมรับว่าผลกระทบดังกล่าวเป็นผลเสียแล้วในปัจจุบันก็มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าในตอนนี้ Instagram นั้นยังไม่ใช่พื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน แต่แน่นอน Instagram นั้นก็กำลังเร่งหาทางแก้ไขและพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองให้ดีมากขึ้นและเหมาะกับการใช้งานทุกเพศทุกวัยมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น

ซึ่งทาง Facebook ที่เป็นบริษัทแม่และคอยดูแล Instagram อยู่นั้นก็ยังไม่ได้ออกมาบอกวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างแน่ชัดว่าจะมีการกระทำไปในทิศทางใด ถึงแม้ว่า Instagram นั้นจะพยายามที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มโดยการออกไอเดียต่างๆ มาก็ตามทีดูในอดีตก็มีไอเดีย Instagram สำหรับเด็ก หรือว่ามีระบบที่คอยตรวจสอบถ้อยคำหยาบคาย รวมไปถึงมีระบบที่จะตั้งค่าให้ผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีนั้นเป็นรูปแบบ “ส่วนตัว” เพื่อลดอัตราการมองเห็นจากบุคคลภายนอกนั้นเอง

ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าทาง Instagram นั้นกำลังเร่งแก้ไขปัญหาจริง ๆ และใส่ใจสุขภาพจิตของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงต้องมาติดตามดูว่าในอนาคตจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ดีมากแค่ไหน และจะทำให้แพลตฟอร์มของตนเองนั้นเติบโตต่อไปโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานได้อย่างไร

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Mission To the Moon , Cnet

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook