จบแล้วยุคโทรศัพท์ Blackberry

Blackberry

บริษัท Blackberry เริ่มเปลี่ยนตัวเอง

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากนั่นก็คือโทรศัพท์ Blackberry  ที่เป็นโทรศัพท์ปุ่มกดที่มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายมากมายเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นการโทรเข้าโทรออกการส่งข้อความหรือว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งในช่วงเวลานั้นเรียกว่าใครไม่มีโทรศัพท์ Blackberry จะเรียกว่าเชยก็ว่าได้  เวลาเดินไปที่ไหนก็มีแต่การขอ pin  เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน ที่สำคัญยังมีหลายรุ่นและหลายสีอีกด้วย เรียกได้ว่าปิดโทรศัพท์ยอดฮิตของกลุ่มวัยรุ่นเมื่อช่วง 10 ปีก่อนเลยทีเดียว  ปีก่อนเลยทีเดียว

เมื่อเวลาผ่านไปปีใหม่ๆก็เข้ามาแทนที่จากโทรศัพท์ที่มีปุ่มกดก็กลายเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ระบบสัมผัสแทนซึ่งในปัจจุบันนี้เราจะรู้จักกันในชื่อของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนนั่นเอง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากกว่าและ มีความสะดวกและประสิทธิภาพมากกว่าทำให้โทรศัพท์ Blackberry มีความนิยมที่ลดลงจนในปัจจุบันนี้เราแทบไม่เห็นใครใช้โทรศัพท์ยี่ห้อ Blackberry เลยก็ว่าได้ทุกคนต่างพูดถึงโทรศัพท์ Apple หรือว่า Samsung กันเต็มไปหมดโดยที่ไม่มีใครพูดถึงโทรศัพท์ Blackberry เลย

 จากความนิยมที่ลดลงนี้ทำให้ทางบริษัท Blackberry ตัดสินใจที่จะยกเลิกการใช้งานโทรศัพท์ Blackberry ในรุ่น BlackBerry 10, 7.1 OS และรุ่นก่อนหน้านี้ทั้งหมด ด้วยโทรศัพท์ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้นจะไม่สามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้ ไม่สามารถใช้งานข้อมูล ส่งข้อความ หรือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ รวมไปถึงการโทรเข้าโทรออกก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยระบบการทำงานของโทรศัพท์ Blackberry ได้ถูกอัพเดตครั้งล่าสุดเมื่อปี 2013 อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ Blackberry ที่เป็นระบบปฏิบัติการ Android ยังคงใช้งานได้อยู่และจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปิดการทำงาน 

จากที่ไม่สามารถเดือนหน้าธุรกิจในเรื่องของการผลิตโทรศัพท์ได้ โดยออกจากธุรกิจการพัฒนาโทรศัพท์ในช่วงปี 2016 และบริษัท Blackberry เริ่มเปลี่ยนตัวเองจากบริษัทที่พัฒนาโทรศัพท์มาเป็นบริษัทที่ดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยของซอฟต์แวร์และบริการให้กับบริษัทหลายๆบริษัทและรัฐบาลทั่วโลกภายใต้ชื่อบริษัท BlackBerry Limited 

เทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วถ้าหากว่าบริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่สามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามทันเทคโนโลยีแล้วเราก็บริษัทนั้นก็อาจจะเสี่ยงต่อการล้มละลายหรือถ้าเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนให้เท่าทันเทคโนโลยีด้วยเช่นเดียวกันมิฉะนั้นก็อาจจะตกยุคเหมือนกับบริษัท Blackberry  แล้วต้องมีการเปลี่ยนไปทำธุรกิจในด้านอื่นแทนเพื่อให้บริษัทสามารถยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก  CNN

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

เปิดเผยหน้าตาโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Pixel 6 และ Pixel 6 Pro

Pixel 6

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาทาง Google ได้มีการเปิดเผยโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมาโดยใช้ชื่อว่า Pixel 6 และ Pixel 6 Pro

โดยสำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Pixel 6 จะมีขนาดของหน้าจออยู่ที่ 6.4 นิ้วแล้วเป็นหน้าจอธรรมดาโดยมีอัตราการรีเฟรชหน้าจออยู่ที่ 90 Hz แต่สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น Pixel 6 Pro จะเป็นจอโค้งมนแล้วมีขนาดของหน้าจออยู่ที่ 6.7 นิ้ว และอัตราการรีเฟรชหน้าจออยู่ที่ 120 Hz สำหรับกล้องที่ติดมาอยู่กับสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนั้น Pixel 6 จะเป็นกล้องคู่ Wide และ Ultrawide ส่วน Pixel 6 Pro เลนส์กล้องจะมีการเพิ่ม Telephoto เข้ามา ในเรื่องของราคาเครื่องนั้น Pixel 6 จะเริ่มต้นที่ราคาประมาณ 1000 ดอลลาร์หรือประมาณ 30,000 บาทในส่วนรายละเอียดต่างๆ ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยออกมาและคาดว่าจะเปิดเผยในช่วงเดือนตุลาคมนี้

แต่สิ่งที่น่าสนใจนั้นของเครื่องสมาร์ทโฟน Pixel 6 ซึ่งทาง Google นั้นผลิตชิปเพื่อมาใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เองโดยเฉพาะโดยชิปมีชื่อว่า “Tensor” ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Samsung ที่ได้มีการประกาศจับมือกันภายในงาน Google I/O เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยทาง Google ได้โฆษณาว่าชิปประมวลผลนี้จะมีการเพิ่มระบบ AI เข้าไป และมีโมเดล Machine Learning ในตัว ซึ่งจะเป็นการยกระดับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Pixel 6 ให้เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นก่อน ๆ ที่ผ่านมามากเลยทีเดียวโดยผู้ใช้งานนั้นจะสามารถเข้าถึงประสบการณ์จากการใช้งานโทรศัพท์รุ่นนี้ได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการแปลภาษาจากตัวอักษรในรูปภาพ คำสั่งเสียง การถ่ายรูปก็ในเครื่องสมาร์ทโฟน Pixel 6 ก็จะมีความคมชัดมากขึ้นอีกด้วย

ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศว่า Pixel 6 จะใช้ชิปประมวลผล Tensor ก็ตามทีแต่ดูเหมือนว่าสเปคของมันจะยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมดโดยมีการคาดว่าจะถูกเปิดเผยมาในช่วงปลายปีนี้พร้อมกับตัวเครื่องซึ่งก็ต้องมาติดตามดูว่านอกจากรายละเอียดดังกล่าวที่ถูกเปิดเผยมาแล้ว Tensor นั้นจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดหลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะสามารถสู้กับชิปประมวลผลของโทรศัพท์รุ่นอื่นได้หรือไม่

ในตอนนี้การแข่งขันของตลาดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมีการแข่งขันที่สูงมากบริษัทหลาย ๆ บริษัทต่างพากันผลิตชิปประมวลผลของตนเองขึ้นมาเพื่อใช้งานในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของตัวเองมากขึ้น และพัฒนาให้มันสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอยู่เสมอ ยิ่งโทรศัพท์ของบริษัทไหนมีชิปประมวลผลที่ดีก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าได้มากขึ้น และยิ่งชิปประมวลผลดีขึ้นก็ทำให้เทคโนโลยีที่ใช้ชิปประมวลผลนั้นสามารถทำงานได้มากมายมากขึ้น และอาจจะตรงความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Made by Google

ข้อมูลจาก สปริงนิวส์ , Blognone , The Verge

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  
เวปไซด์ getup-it.com