ประเทศอังกฤษเพิ่มการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

อังกฤษ

ประเทศอังกฤษตั้งเป้าจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ขับขี่บนท้องถนนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้หมดภายในปี 2030

หลังจากที่มีการประชุม COP26 ซึ่งเป็นการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกนั้นหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในประเทศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศของโลกให้ได้มากที่สุดและ 1 ประเทศที่ดูเหมือนจะออกมาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนั่นก็คือประเทศอังกฤษ

ประเทศอังกฤษที่นำโดยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันมีการตั้งเป้าว่าจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ขับขี่บนท้องถนนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้หมดภายในปี 2030 และได้มีการออกกฎหมายใหม่เพื่อจัดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไปทั่วทั้งประเทศโดยในแต่ละปีจะมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งใหม่เป็นจำนวน 145,000 สถานี โดยในปัจจุบันนี้สหราชอาณาจักรได้มีสถานีชาร์จเป็นจำนวน 25,000 สถานี โดยมีความต้องการที่ปรับเพิ่มขึ้น 10 เท่าภายในปี 2030 โดยกฎหมายกำหนดไว้ว่าอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จำเป็นที่จะต้องมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจากกฎหมายดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2030 นั่นเอง และกฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้การชาร์จพลังงานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปได้ง่ายเหมือนกับการเติมน้ำมันดีเซล

ซึ่งจากแนวทางนี้ทำให้ในประเทศสหราชอาณาจักรอัตราการขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดย 10 เปอร์เซ็นต์จากการขายรถยนต์ทั้งหมดในปี 2020 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจากปี 2018 เป็นจำนวน 2.5% 

อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่จะเปลี่ยนรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้หมดภายในปี 2030 ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายมากมายขนาดนั้นเพราะว่าสำหรับครอบครัวที่มีรายได้ระดับกลางจนถึงระดับต่ำภายในประเทศก็อาจจะไม่สามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อมาใช้งานได้ในอนาคต 

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจจะไม่ช่วยให้โลกของเราดีขึ้นในระยะสั้นแต่ในระยะยาวแล้วก็จะช่วยได้ และเป็นการช่วยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปและได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

นอกจากประเทศอังกฤษแล้วในตอนนี้บริษัทรถยนต์หลาย ๆ บริษัทก็เริ่มจะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Jaguar และ Volvo ที่มีแผนที่จะเปลี่ยนรถยนต์ทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ในปี 2025 จนถึง 2030 รวมไปถึง Ford ที่ตั้งเป้าว่าจะมีการขายรถยนต์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในทวีปยุโรปในปี 2035 

รถยนต์ไฟฟ้าหรือว่าเป็นทางออกที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่หลาย ๆ ประเทศนั้นมีความเห็นคล้อยตามกัน เราพร้อมจะเปลี่ยนแปลงรถยนต์ภายในประเทศให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นด้วยซึ่งในประเทศไทยก็มีแผนนี้เช่นเดียวกันแต่ก็ต้องมาดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปีไหนกันแน่

ภาพจาก Pexels

ข้อมูลจาก BBC 

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ เทคโนโลยีรอบโลก 
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

เมืองนิวยอร์คแบนรถยนต์ใช้น้ำมันในปี 2035

เมืองนิวยอร์ค

เมืองนิวยอร์คในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีแผนการที่จะลดอัตราการใช้งานรถที่ใช้พลังงานน้ำมัน

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้โลกของเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่วิกฤตที่ใหญ่กว่าโควิดนั่นก็คือภาวะโลกร้อนที่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะแก้ไขปัญหาไม่ทันเสียแล้ว นับตั้งแต่โลกของเราได้เดินทางเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมและมีเทคโนโลยีเข้ามารวมถึงประชากรของโลกเพิ่มขึ้นทำให้อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโลกของเรามีค่าเฉลี่ยที่จะร้อนขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้โลกของเรานั้นชะลอการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมินั้นก็คือการลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ต้องยอมรับว่าเมื่อประชากรเพิ่มสูงขึ้นทำให้การจราจรก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกันในปัจจุบันนี้รถยนต์ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานมาจากน้ำมันซึ่งเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เมืองหลายเมืองพบเจอกับปัญหาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เนื่องจากการจราจรที่ติดขัด ทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนรถยนต์ใช้พลังงานน้ำมันเป็นรถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้า เมืองนิวยอร์คในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีแผนการที่จะลดอัตราการใช้งานรถที่ใช้พลังงานน้ำมัน โดยในปี 2035 เมืองนิวยอร์คจะแบนรถยนต์พี่ใช้พลังงานน้ำมัน โดยมีการออกกฎหมาย A.4302/S.2758 ที่ได้มีการลงนามโดย Kathy Hochul ผู้ที่เป็นผู้ว่าราชการเมืองนิวยอร์ก โดยกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่จะห้ามซื้อขายรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันดีเซลและแก๊สภายในปี 2035 โดยรถยนต์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นรถยนต์โดยสารรถขนส่งรถยนต์ออฟโรดจะต้องจำหน่ายในรูปแบบ Zero emission

นอกจากนี้กฎหมายดังกล่าวนั้นยังออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะลดการปล่อยมลพิษจากรถบรรทุกอีกด้วยโดยภายในปี 2045 รถบรรทุกขนาดกลางจนไปถึงขนาดใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ ซึ่งเมืองนิวยอร์คนั้นจะมีการเริ่มต้นเป็นเมืองไร้มลพิษตั้งแต่ปี 2025 โดยมีเป้าหมายที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ถึง 85 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050

อย่างไรก็ตามกฎหมายที่ได้ออกมาเกี่ยวกับการแบนการซื้อรถยนต์ที่ใช้พลังงานแก๊สและน้ำมันนั้นจะไม่มีผลย้อนหลังกับผู้ที่ได้ครอบครองรถยนต์ที่ใช้พลังงานดังกล่าวก่อนหน้านี้ และการที่เมืองนิวยอร์คได้ออกกฎหมายนี้ คงทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์นั้นต้องเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างแน่นอนในอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วทั้งโลกคงเดินหน้าที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นซึ่งในปัจจุบันก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ เทคโนโลยีรอบโลก 
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

อัปเดตซอฟต์แวร์ 2021.24 ในรถยนต์ Tesla

Tesla

รถยนต์ Tesla รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลกไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์อีกต่อไปจากการอัปเดตครั้งที่แล้ว ในรถยนต์เคฟล่านั้นได้มีการเพิ่มชิปประมวลผลรวมถึงการ์ดจอซึ่งทำให้เล่นเกมระดับ AAA ได้ และล่าสุดในการอัปเดตซอฟต์แวร์ 2021.24 ของรถยนต์ Tesla ทำให้รถยนต์กลายเป็นแหล่งความบันเทิงไปเลยทีเดียว

การอัปเดตซอฟต์แวร์ 2021.24 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามามากมายเลยทีเดียว และหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือ Theatre Mode ด้วยฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้ใช้งานรถยนต์นั้นสามารถเข้าถึงสื่อความบันเทิงรูปแบบสตรีมมิงได้มากมายเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น YouTube, Netflix หรือแม้กระทั่ง Disney Plus ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยผู้ใช้งานนั้นสามารถเข้าถึงโหมดนี้ผ่าน Entertainment section ของซอฟต์แวร์ที่มาในรถยนต์ Tesla แต่เช่นเดียวกับการเล่นเกมการที่จะเข้าถึง Theatre Mode ได้นั้นรถยนต์จำเป็นต้องจอดอยู่กับพี่เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมี Wash Mode ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในการอัปเดตซอฟต์แวร์ครั้งนี้อีกด้วย โดยเมื่อใช้งานโหมดนี้รถยนต์ Tesla นั้นจะเข้าสู่โหมดการเตรียมพร้อมเพื่อล้างรถโดยรถยนต์จะทำการปิดหน้าต่าง หน้าปัดน้ำฝน และยังมีระบบอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อให้การล้างรถนั้นมีความสะดวกสบายมากขึ้นแล้วปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย

สุดท้ายก็คือ Teslacam นั้นที่ถูกสร้างขึ้นมาในกล้องติดรถยนต์สามารถตั้งค่าให้บันทึกคลิปวิดีโอได้อัตโนมัติแล้ว เมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุและมีการใช้งาน airbag 

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับการอัปเดตในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มภาษาเข้ามาหรือการตั้งค่าการเชื่อมต่อ WiFi เรียกได้ว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ ทำให้รถยนต์ของบริษัท Tesla นั้นกลายเป็นรถยนต์อัจฉริยะมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และก็อาจจะกลายเป็นรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของใครหลาย ๆ คนได้เลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยหรือว่าความบันเทิงรถยนต์ของ Tesla นั้นมีให้พร้อม 

ในอนาคตรถยนต์ Tesla จะมีการอัปเดตอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกบ้างนั้นก็คงต้องมาติดตามดูกัน แค่เทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ก็ทำให้พวกเรารู้สึกตื่นตาตื่นใจได้แล้วในอนาคตคงมีมากกว่านี้อย่างแน่นอนเลยทีเดียว

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet , insideevs

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  
เวปไซด์ getup-it.com

CPALL รักธรรมชาติเปลี่ยนรถยนต์เป็น EV

7-11

รถยนต์ไฟฟ้าถือว่าเป็นนวัตกรรมที่กำลังเป็นที่ถูกพูดถึงในปัจจุบันนี้ หลาย ๆ บริษัทชั้นนำของโลกเริ่มหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์น้ำที่ใช้น้ำมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อรถยนต์ไฟฟ้า TESLA, MG, FORD เพื่อลดปัญหาสภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่คนทั้งโลกต้องช่วยกันหาทางแก้ไข และเพื่อเปลี่ยนพลังงานน้ำมันที่เป็นพลังงานใช้แล้วหมดไปให้กลายเป็นพลังงานทางเลือกอย่างพลังงานไฟฟ้า และแน่นอนว่าเมื่อบริษัทชั้นนำของโลกนั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง หลาย ๆ ประเทศก็เริ่มมีนโยบายที่จะเปลี่ยนรถยนต์ภายในประเทศให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แล้วประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า และได้มีการตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราการใช้รถยนต์ภายในประเทศให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

CPALL เป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนรถยนต์ขนส่งสินค้าจำนวน 7,000 คันให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยตอบรับกับนโยบาย 7 Go Green Mission 2021 ซึ่งในตอนนี้กำลังเจรจากับฝ่ายการผลิตอยู่ นอกจากนี้ยังจัดตั้งสถานีบรรจุไฟฟ้า 100 สถานีภายในปี 2021 นี้ 

การเปลี่ยนแปลงรถยนต์ขนส่งสินค้าของ 7 ในครั้งนี้จะสามารถช่วยลดพลังงานและลดต้นทุนการขนส่งของบริษัท นอกจากนี้ทางบริษัทนั้นยังตั้งเป้าไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 128,426 ตัน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้จำนวน 348,648 ต้น เลย

นอกจากบริษัท CPALL ตอนนี้ใน บอร์ด EV ของประเทศไทยได้มีการตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2578 และภายในปีเดียวกันนั้นรถยนต์ในประเทศไทยจะต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวน 15.5 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรถจักรยานยนต์และรถยนต์จำนวนมากที่สุด รองลงมาคือรถปิคอัพ และรถบัสและรถบรรทุกที่มีอัตราส่วนน้อยที่สุด นอกจากนี้ปั๊มน้ำมันหลาย ๆ แห่งก็เริ่มที่จะมีแผนจะสร้างสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นปตท. หรือใบจาก

ปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของโลกในตอนนี้เพราะในทุกปีโลกของเราก็ได้สะท้อนปัญหาให้เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นสภาวะไฟป่าธรรมชาติที่เกิดมากขึ้นทุกปี ฝุ่น PM 2.5 หรือแม้กระทั่งน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลายมากขึ้นเกือบทุกปีส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุกปี แล้วเมื่อน้ำทะเลเริ่มหนุนสูงมากขึ้นพื้นที่บางส่วนก็ถูกน้ำท่วม ดังนั้นในปัจจุบันเทคโนโลยีส่วนใหญ่ถึงได้ถูกผลิตออกมาเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนที่กำลังลุกลามมากขึ้นนั่นเอง โดยปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นปัญหาของทุกคน หากเราช่วยกันลดการปล่อยพลังงานมลพิษเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยโลกได้แล้ว

#CPALL #รถยนต์ไฟฟ้า #เทคโนโลยีรอบโลก #getup-it.com

ข้อมูลจาก EfinanceThai : CPALL จ่อเปลี่ยนรถสินค้า 7,000 คัน เป็น EV – ฟาก EA รุกเจรจา

The Standard Weath

Stock2morrow

Cr.Wikimedia