Apple โดนแบนในประเทศจีน ย้ายฐานผลิตไปอินเดีย

Apple โดนแบนในประเทศจีน ย้ายฐานผลิตไปอินเดีย

Apple บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศอเมริกาถูกประเทศจีนสั่งแบน ทำให้หุ้นของบริษัทร่วงลงมาอย่างรวดเร็วโดยเมื่อวันพุธราคาของหุ้น Apple ร่วงลงมากกว่า 4% ต่อด้วยวันพฤหัสบดีลงมาอีก 3%

ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนมีนโยบายกีดกันการ ค้าซึ่งกันและกันทำให้ทั้งสองประเทศไม่ยินดีที่จะใช้เทคโนโลยีของกันและกันนั่นเอง ซึ่งทางรัฐบาลจีนก็ได้ออกประกาศให้พนักงานที่ทำงานภายใต้รัฐบาลจีนห้ามใช้โทรศัพท์ iPhone ของ Apple ซึ่งรวมไปถึงบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย ด้วยเหตุนี้ทำให้หุ้นของ Apple ร่วงลงมาโดยทันทีและที่สำคัญเลยก็คือตลาดจีนไม่ว่าจะเป็นประเทศไต้หวัน เมืองฮ่องกง และประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของ Apple ตีเป็นมูลค่า 18% ของยอดรายได้ 394 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

ภาพ Pexels/Matcuz

นอกจากจะทำให้หุ้นร่วงแล้วการสั่งแบนในครั้งนียังทำให้ยอดขายของ Apple ลดลงอีก 5% ด้วย แถมถ้ารัฐบาลจีนมีการสั่งแบนอย่างต่อเนื่องทุก ๆ วันก็มีความเป็นไปได้ว่าประชาชนใน ประเทศจีนส่วนใหญ่อาจจะเปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์รุ่นอื่นแทน iPhone ของ Apple ก็เป็นได้ยิ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเปิดตัวโทรศัพท์ Huawei mate 60pro ซึ่งก็ได้ผลตอบรับจากประชาชนในประเทศจีนเป็นอย่างดีส่วนแบ่งของ Apple ก็อาจจะลดลงไปอีกในประเทศจีน

ภาพ Pexels/652234

อีกหนึ่งปัญหาที่ทาง Apple ก็ได้หาทางแก้ไขไปแล้วนั่นก็คือศูนย์กลางการผลิตส่วนประกอบต่าง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ Apple มีฐานการผลิตหลักอยู่ที่ประเทศจีนแต่ก็ได้เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน เพื่อหาทางหนีทีไล่บริษัท Apple ก็เริ่มย้ายศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีไปที่ประเทศอินเดียแล้ว โดยจะตั้งโรงงานการผลิตในรัฐ Telangana โดยในช่วงเฟสแรกของการทำงานจะจ้างพนักงานจำนวนกว่า 25,000 คนย้ายฐานผลิตไปอินเดีย หลังจากที่ตั้งโรงงานแรกเสร็จสิ้นก็จะไปตั้งโรงงานอีกหนึ่งโรงงานในรัฐ Karnataka ซึ่งการย้ายฐานการผลิตมาครั้งนี้ก็เหมือนมาถูกที่ด้วยเช่นเดียวกันเพราะประเทศอินเดียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มียอดการขายโทรศัพท์ iPhone ของ Apple สูงโดย 4% จากยอดขายทั้งหมดในไตรมาสที่ 2 ก็มาจากประเทศอินเดีย

ข้อมูลจาก CNBC Apple shares fall after reports that China banned iPhone use by government employees

CNBC India is now one of Apple’s top 5 iPhone markets for the first time

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook 

Microsoft ปิด Linkedin ในประเทศจีน

Linkedin

Linkedin เป็นเหมือนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานหรือหางาน

เมื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ อยู่รอบตัวเอาการสมัครงานหรือหาที่ทำงานใหม่ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากเมื่อก่อนถ้าหากว่าต้องการที่จะสมัครงานหรือเริ่มงานที่บริษัทใหม่จำเป็นที่จะต้องเดินไปสมัครที่บริษัทหรือโทรศัพท์นัด ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เสียเวลาและก็เสียโอกาสไปมากมายเลยทีเดียว แต่ว่าในยุคปัจจุบันเราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์หรือจากแอปพลิเคชันได้เลย เพียงแค่ส่งข้อมูลตามที่บริษัทที่ต้องการสมัครขอเพียงเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่มีคนนิยมใช้งานทั่วโลกก็คือ Linkedin

Linkedin เป็นเหมือนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานหรือหางานซึ่งมีผู้ใช้งานจากทั่วทุกมุมโลกไม่เว้นแต่ในประเทศไทยมีการเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2002 ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีผู้ใช้งานจำนวนมากมายเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าในประเทศจีนจะไม่มี Linkedin อีกต่อไปMicrosoft ได้มีการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าจะปิดการใช้งาน Linkedin ภายในประเทศจีน โดยจะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันหางานตัวใหม่โดยจะเน้นกลยุทธ์ในเรื่องของการหาผู้เชี่ยวชาญให้เข้ากับงานโดยจะมีการเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ แล้วจะทำแพลตฟอร์มให้ลักษณะความต่างไปจากเดิมโดยจะไม่มีหน้า News Feed หรือจะไม่สามารถแบ่งปันโพสต์ได้ โดยแอปพลิเคชันใหม่นี้จะมีชื่อว่า Injobs

โดยจุดเริ่มต้นของการยุติการใช้งาน Linkedin ในประเทศจีนเริ่มต้นจากฝ่ายควบคุมดูแลอินเทอร์เน็ตของประเทศจีนขอให้ Linkedin จัดระเบียบเนื้อหาภายในแพลตฟอร์มตั้งแต่เดือนมีนาคมโดยให้ระยะเวลา 1 เดือนในการทำตามข้อเรียกร้อง ซึ่งก็เป็นการกดดันและเป็นความท้าทายที่ Microsoft มันต้องจัดการ

Linkedin เริ่มใช้บริการในประเทศจีนตั้งแต่ในช่วงปี 2014 และอยู่ในการดูแลของ Microsoft ตั้งแต่ในช่วงปี 2016 โดยจนถึงปัจจุบันก็มีอายุ 7 ปี การถอนตัวในครั้งนี้จะทำให้ประเทศจีนไม่มีการใช้งานแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นของประเทศสหรัฐเลยแม้แต่แอปพลิเคชันเดียว โดย Facebook และ Twitter ก็โดนบล็อกจากประเทศจีนและ Google ก็ได้มีการถอนตัวออกจากประเทศจีนตั้งแต่ปี 2010

สำหรับประเทศจีนแล้วแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ที่ทั่วโลกใช้งานกันจะไม่ถูกนิยมใช้ในประเทศจีนเพราะว่าประเทศจีนนั้นมีแอปพลิเคชันที่สามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารกันภายในประเทศอยู่แล้ว และด้วยการเป็นมหามากของทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกทำให้ทั้งสองฝ่ายนั้นมีการแข่งขันกันในหลาย ๆ ด้านนั่นเอง

ซึ่งก็น่าติดตามดูว่าหลังจากที่ Linkedin ถูกปิดตัวไปแล้วจะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ “Injobs” จะได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเหมือนกับ Linkedin แล้วจะมีฟีเจอร์การทำงานเป็นอย่างไร

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet , CNBC

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook