Microsoft เปิดตัว AI สร้างรูป จากเทคโนโลยี “Dall-E” บน Edge

Microsoft เปิดตัว AI สร้างรูป จากเทคโนโลยี “Dall-E” บน Edge

การมาของเทคโนโลยี AI ทำให้หลาย ๆ บริษัทหันมาสนใจที่จะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการต่อยอดเทคโนโลยีของตัวเองให้น่าใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัท Microsoft ที่เป็นยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยี ก็ได้นำ AI เข้ามาใช้กับ Microsoft Edge ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่ง AI ดังกล่าวมีชื่อว่า Dall-E

ภาพ OpenAi

“Dall-E” เป็นเทคโนโลยี AI จาก OpenAI ทำงานร่วมกับ 3D Rendering Engine โดยได้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อมาจาก Wall-E ภาพยนตร์อนิเมชั่นของ Pixar โดยมันเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สร้างรูปภาพ 3 มิติจากข้อความ ในปัจจุบันนี้ Microsoft ได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวใน Microsoft Edge t โดยมันจะถูกติดตั้งไว้ในที่ Sidebar และใช้ชื่อว่า Image Creator

สำหรับใครที่ยังไม่มีโลโก้ของ Image Creator เพื่อใช้งานสามารถทำตามได้ดังนี้

  1. กดเครื่องหมายบวกที่ Sidebar
  2. และกดเปิดสวิตช์ Image Creator
  3. ถ้าหากไม่มีโลโก้ Image Creator ค้นหาคำว่า “Image Creator Bing”

ภาพ Microsoft Bing Image Creator

ปัจจุบันนี้ในการใช้งาน Image Creator ที่ใช้ Dall-E ยังไม่รองรับภาษาอื่น ๆ โดยจำเป็นจะต้องพิมพ์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษเพียงเท่านั้น และทาง Microsoft ก็ยังไม่ได้บอกอีกด้วยว่าเครื่องมือดังกล่าวสามารถสร้างรูปภาพได้กี่รูปภาพต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน แต่จากการทดลองใช้งานโดยผู้เขียน Image Creator จะมีเหรียญให้ประมาณ 26 เหรียญเมื่อผู้ใช้งานพิมพ์ข้อความเพื่อที่จะสร้างรูปภาพ 1 รูป เหรียญก็จะหายไป 1 อัน แต่ดูเหมือนว่าเหรียญดังกล่าวจะไม่มีผลต่อจำนวนการสร้างรูปภาพ แต่เมื่อใช้เหรียญจนหมดการสร้างรูปภาพก็จะช้าลงกว่าปกติเพียงเท่านั้น สำหรับรูปภาพที่ถูกสร้างขึ้นจะมีจำนวน 4 รูปด้วยกัน โดยเราสามารถดาวน์โหลดรูปที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเก็บหรือไปแชร์ต่อในสื่อสังคมออนไลน์ได้

นอกจากเทคโนโลยีสร้างรูปภาพจากข้อความแล้ว Microsoft ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ ให้กับ Microsoft Edge อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Drop Tools ที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการส่งไฟล์หรือรูปภาพให้กับตัวเอง สร้าง Notebook ส่วนตัวในหลายอุปกรณ์ และ Browser essentials ที่ใช้ในการสแกนหาไวรัส และก่อนหน้านี้ก็ได้มีการเพิ่มแชทบอทให้กับ Bing ด้วย เรียกได้ว่าเอาใจผู้ใช้งานเต็มที่ สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้งาน Microsoft Edge สามารถลองไปใช้งานได้ ตอนนี้ประสิทธิภาพก็ดีพอ ๆ กับ Google Chrome เลยทีเดียว

ข้อมูลจาก The Verge , Techtalkthai

เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บทความอื่นๆ