Facebook ดำเนินการลบโพสต์ Covid

Facebook

หลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคโควิดเริ่มต้นขึ้น เล่นช่องทางที่สามารถแพร่กระจายข่าวทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ทันอย่างรวดเร็วก็คือสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งการออกข่าวสารต่าง ๆ นั้นบางครั้งก็เป็นข้อมูลที่เป็นเท็จหรือถูกปลอมแปลงขึ้นมาทำให้เกิดความเสียหายและประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา

ถึงแม้ว่าในประเทศสหรัฐอเมริกาจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดและประชาชนบางส่วนก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตดังเดิมแล้ว แต่ว่าก็มีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่ยอมที่จะเดินทางไปฉีดวัคซีน และยังมีการแพร่กระจายข่าวปลอมต่าง ๆ เพื่อที่จะชักจูงคนให้ไม่ไปฉีดวัคซีนด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเหตุผลหลักๆ ก็มาจากเรื่องการเมืองนั่นเอง

ทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาที่กำลังนำโดยประธานาธิบดีโจไบเดนนั้นได้มีการกดดันและออกคำสั่งให้สื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ นั้นช่วยลบข่าวปลอมออกจากแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อลดผลกระทบ ซึ่งหลายๆ แค่ปลอมก็เริ่มได้มีการดำเนินการหลังจากที่มีคำสั่งออกมาแต่ก็ดูเหมือนว่าแต่ยังไม่มากพอทำให้ตอนนี้การฉีดวัคซีนทั่วทั้งประเทศนั้นยังคงเป็นไปได้อย่างไม่เต็มที่มากเท่าไหร่

บน Facebook นั้นได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งได้มีการแชร์ข่าวสารปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิดไปเป็นจำนวนมากกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็มี account ที่เชื่อมโยงไปกับกลุ่มและเพจต่าง ๆ บน Facebook และ Instagram ซึ่ง Facebook ก็ได้ทำการกำหนดบทลงโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตั้งแต่การแพร่ระบาดเริ่มต้นจนถึงช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทาง Facebook ได้มีการลบโพสต์ออกจาก Facebook และ Instagram ไปเป็นจำนวนมากกว่า 20 ล้านโพสต์แล้ว และยังได้มีการลบมากกว่า 3,000 บัญชีผู้ใช้งานกลุ่มรวมไปถึงเพจต่าง ๆ ที่มีการต่อต้านกฎระเบียบโควิดของแพลตฟอร์ม

Facebook นั้นได้มีการร่วมงานกับ Carnegie-Mellon University และ the University of Maryland ในการสำรวจเกี่ยวกับเรื่องโควิค โดยกลุ่มคนในสหรัฐมากกว่า 50% มีความลังเลที่จะไม่ฉีดวัคซีน แต่สำหรับ ในฝรั่งเศสนั้นมีการยอมรับมากถึง 35% รวมไปถึงในอินโดนีเซีย 25% และไนจีเรีย 20%

จากผลการสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าในประเทศสหรัฐนั้นก็ยังคงชักจูงและเชิญชวนให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนได้ไม่มากพอ ถึงแม้ว่าทางประเทศสหรัฐจะดำเนินการด้วยวิธีการต่างๆ ในการชักจูงให้ผู้คนออกมาฉีดวัคซีนก็ตามที

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet , CNN

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  
เวปไซด์ getup-it.com

บทความอื่นๆ