แอป Clubhouse ยกเลิกระบบ invite – only

c

หลังจากที่เปิดตัวมาช่วงปี 2020 แอปพลิเคชัน Clubhouse ที่มีลักษณะเด่นเป็นคอนเทนต์ประเภท Audio-only ก็ได้กลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS นอกจากจะมีลักษณะเด่นเกี่ยวกับ Content ที่มีความหลากหลายแล้ว

Clubhouse ยังเป็นสื่อออนไลน์ประเภทหนึ่งที่สามารถให้ผู้คนจำนวนมากเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ได้อีกด้วย ด้วยความเปิดกว้างของความคิดเห็นและ Content ทำให้ผู้พัฒนาต้องพัฒนาแอปบนระบบ Android ขึ้นมาเลย และทันทีที่มีการเปิดตัวให้ดาวน์โหลดใช้งานการบนระบบปฏิบัติการ Android ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว จนในระยะหลังแบบฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ประเภทอื่นๆ ก็กำลังพัฒนาฟีเจอร์ที่มีลักษณะการทำงานเช่นเดียวกับ Clubhouse เพื่อมาชักจูงผู้ใช้บริการทำให้ทาง Clubhouse ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น

โดยปกติแล้วการสมัครแอป Clubhouse จะต้องมีการ invite จากผู้ใช้งานหรือถ้าหากสมัครเองก็จะไปอยู่ใน Waiting List ซึ่งบางครั้งก็ทำให้ผู้สมัครใหม่นั้นใช้เวลานานในการรอคอยระบบยืนยันตัวตนเพื่อให้เข้าใช้งานได้ ซึ่งอาจจะใช้เวลามากกว่า 1 อาทิตย์หรือว่า 2 อาทิตย์เลยทีเดียว ด้วยจำนวนคนที่เข้าสมัครเข้ามาอย่างมหาศาลทำให้ผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Paul Davison and Rohan Seth ได้ออกมาประกาศว่าแอปพลิเคชันงั้นยกเลิกระบบ invite – only เพื่อให้ผู้ใช้งานหน้าใหม่สามารถเข้ามาใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง โดยเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ออกมาหลังจากที่ทาง Clubhouse ได้มีการเปิดใช้งาน DM product และ Back Channel เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางทีมได้มีการบอกว่ามีคนส่งข้อความเข้ามามากถึง 10 ล้านข้อความในวันแรกที่มีการเปิดตัวและมากกว่า 90 ล้านข้อความหลังจากเปิดตัวมาได้ 1 อาทิตย์

เพื่อต่อสู้กับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด Clubhouse ก็มีความจำเป็นที่จะต้องรับผู้บริการให้ได้มากที่สุด ในตอนนี้แอปพลิเคชันที่เป็นคู่แข่งของคลับเฮาส์ก็คงจะหนีไม่พ้นทวิตเตอร์ที่มีการพัฒนาฟีเจอร์อย่าง Twitter Spaces ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ในลักษณะเดียวกันกับ Clubhouse นอกจากนี้แล้ว Facebook ก็กำลังพัฒนาฟีเจอร์ในลักษณะเดียวกันขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่า Facebook Live Audio Room

ภาพ Screenshot จาก App Store

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit  
เวปไซด์ getup-it.com

บทความอื่นๆ