Dropbox แพลตฟอร์ม ที่เป็นการเก็บข้อมูลในระบบคราว
ในปัจจุบันนี้การเก็บข้อมูลถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียวและในบางครั้งการเก็บข้อมูลในโทรศัพท์มือถือหรือ Hard Disk Drive ก็อาจจะไม่สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างเพียงพอสำหรับผู้คนที่ต้องการเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมาก หลาย ๆ คนจึงนำข้อมูลบางส่วนไปเก็บไว้บนคราวหรือระบบเก็บข้อมูลออนไลน์ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมอย่างมากเพราะเราไม่ต้องพกพาอุปกรณ์เก็บข้อมูลให้ลำบากเราสามารถอัปโหลดข้อมูลต่าง ๆ ไว้บนอินเทอร์เน็ตได้เลยและถ้าต้องการใช้งานก็เพียงแค่ดาวน์โหลดมันออกมา

และด้วยความนิยมของการเก็บข้อมูลบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันนี้จึงมีแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มที่เป็นการเก็บข้อมูลในระบบคราวขึ้นไม่ว่าจะเป็น Google Drive หรือที่เรารู้จักกันดีอีก 1 แพลตฟอร์มก็คือ Dropbox ซึ่งทั้งคู่สามารถเก็บได้ทั้งไฟล์บนมือถือและไฟล์บนคอมพิวเตอร์แต่สำหรับผู้ที่ใช้เครื่อง Mac ชิป M1 จะไม่สามารถใช้งาน Dropbox เนื่องจากไม่ได้มีโปรแกรมรองรับนั่นเองแต่ว่าล่าสุด Drop Box ก็ได้มีการอัปเดตเวอร์ชั่นเบต้าที่รองรับการใช้งานบนเครื่อง Mac ชิป M1 ที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่มีการประกาศออกมาเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา
จริง ๆ แล้วเครื่อง Mac ชิป M1 สามารถใช้งาน Dropbox ได้แต่ต้องใช้งานร่วมกับ Rosetta 2 translation layer ซึ่งการใช้งานดังกล่าวจะทำให้ระบบปฏิบัติการ MacOS สามารถใช้งานบนเครื่อง Mac ชิป M1 ด้วยการเปลี่ยนแปลงให้สามารถทำงานบนระบบแบบ Native ของเครื่อง M1 ทำให้แอป Dropbox ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและกินพลังงานน้อยลง

Dropbox เป็นเพียงแค่หนึ่งในหลาย ๆ แอปพลิเคชันแก้รองรับการทำงานบนเครื่อง Apple ที่ใช้การประมวลผลแบบ ARM ซึ่งให้เกิดความยากลำบากในการใช้งาน พนักงานที่อยู่ภายในบริษัทก็ได้รับคำแนะนำจากลูกค้าหลาย ๆ ว่า Apple ควรที่จะพัฒนาชิป M1 เวอร์ชัน Native มาก่อนที่ทางทีมงาน Apple จะพัฒนาออกมาเสียอีก อ้างอิงตามประกาศของ CEO ของ Dropbox แอป Dropbox จะถูกพัฒนามาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบบนเครื่องระบบปฏิบัติการ MacOS ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 นี้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ระบบการเก็บข้อมูลบนออนไลน์จะมีโปรแกรมและแพลตฟอร์มให้เลือกมากมายแต่ว่า Dropbox ก็ยังเป็นตัวเลือกแรก ๆ เสมอที่ผู้คนนิยมใช้งานกัน ดังนั้นการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ในทุกแพลตฟอร์มถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งเลย

ในปัจจุบันนี้ Dropbox สามารถใช้งานใน Windows ในรูปแบบของเว็บไซต์และสามารถใช้งานบนมือถือในรูปแบบของแอปพลิเคชันซึ่งทั้งคู่สามารถลิงก์กันด้วยอีเมลของผู้ใช้งาน ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้จากทั้งบนมือถือและบนคอมพิวเตอร์ได้เลยถือว่าเป็นแอปที่มีความสะดวกเป็นอย่างมาก สำหรับบัญชีที่ใช้งานปีสามารถเก็บข้อมูลได้ 2 GB
ภาพจาก Pixabay
ข้อมูลจาก The Verge
ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook