มันจะเป็นอย่างไรในวันที่โลกไม่มี FACEBOOK เหตุการณ์จริง 6 ชั่วโมงที่โลกไร้ FB และ IG
วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ประมาณเที่ยงวันของเวลาฝั่งเอเชีย เกิดเรื่องที่ผู้ใช้ Facebook และ Instargram ทั่วโลกไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนนั่นคือโลกนี้ไม่มีกำลังหมุนไปข้างหน้าโดยไม่มี Facebook page, instargram page และ FB messengers
ผู้ใช้ Facebook และ IG ทั่วโลกเริ่มไม่สามารถเข้าใช้งานได้อยู่นานจนผู้คนเริ่มรู้แล้วว่า นี่ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาบางเวลาที่การอัพโหลดดาวน์โหลดของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเกิดการคับคั่งทางการใช้งาน จนเน็ตช้าเน็ตห่วย
แต่นี่คือปัญหาร่วมกันจนทำให้ผู้ที่ใช้ Facebook ทั่วไป และผู้ใช้เพื่อการทำงานเริ่มตื่นตระหนก
และมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อทีมสื่อสารของ Facebook ส่งข้อความในโลกทวิภพถึงผู้ใช้ของพวกเขาว่า
“it’s not just you” มันไม่ใช่แค่คุณหรอก (ที่มีปัญหา)
นั่นเป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการ และเป็นการบอกผู้ใช้ว่า กำลังอยู่ในปัญหาจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นาน Facebook ก็ให้ข่าวว่า ระบบล่มมาจากเซิร์ฟเวอร์เกิดไฟฟ้าดับ (outage) มันทำให้ผู้ใช้จำนวนมากได้แต่งุนงงว่า ไฟฟ้าดับมันเกิดขึ้นได้อย่างไรกับบริษัทที่มีมูลค่าการตลาดหลายพันล้านเหรียญ
แต่ Outage ก็มีความหมายว่าสัญญาณดับได้เช่นกัน
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่เด็กเนิร์ด การทำความเข้าใจเรื่องนี้อาจจะทำให้คุณปวดหัวกว่าเดิม

อาจพอเข้าใจได้ง่ายๆว่า Facebook และ IG ต่างก็เป็นเสมือนเว็บไซต์ๆหนึ่ง ไม่ต่างกับ Pantip หรือ Sanook.com
สมมติว่าทุกเว็บไซต์ก็เหมือนบ้านหลังหนึ่ง Facebook ก็เป็นบ้านหลังใหญ่ที่พร้อมให้คนแวะเวียนเข้าไปทำธุระปะปังกันในนั้นได้อย่างสะดวก
แต่บ้านทุกหลังก็ต้องมีที่อยู่ Facebook เองก็ต้องมีบ้านเลขที่สำหรับระบุตำแหน่งให้ระบบสามารถพา User เข้าสู่บ้านหรือเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการในที่นี้เรียกมันว่า DNS ซึ่งก็คือบ้านเลขที่ของเว็บไซต์ต่างๆ “it’s not just you”
แต่ปัญหาคือระบบของ Facebook เหมือนทำ DNS ของตัวเองหายไป เหมือนทำป้ายบ้านเลขที่หายไปนั่นเอง
ไม่เท่านั้นการล่มของระบบภายในยังหมายถึงการติดต่อสื่อสารกันเองของพนักงาน Facebook ทั่วโลกด้วยจนสามารถจินตนาการได้ว่าภายใน Facebookเองจะโกลาหลกันขนาดไหน
ยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนว่าปัญหาจะซับซ้อนกว่านั้นตรงที่มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ข้อมูลภายในเซิร์ฟเวอร์ยังถูกลบหายออกไปอีกมากมาย ทำให้ Facebook ต้องปิดบ้านกู้คืนข้อมูลอย่างยากลำบากและทำให้ Server กลับมาสามารถเชื่อมต่อกับโลกได้อีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ผ่านไปถึง 6 ชั่วโมง
ยังไม่มีการยืนยันว่าเรื่องนี้เกิดจากการถูกโจมตีจากแฮ็คเกอร์ หรือว่าเกิดจากบัคภายใน แต่คาดว่า Facebook คงไม่ย้ำแผลของตัวเองให้ใครดูมากกว่านี้แล้วปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปมากกว่า

ผลของเรื่องนี้นอกจากสั่นคลอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานแล้ว ยังทำให้หุ้นของ Facebook ตกถึง5% เป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ ไม่นับรวมความเสียหายทางการตลาดอีกต่างหาก
ผลก็คือในช่วงเวลาอันยากลำบากของ Facebook เหล่าผู้ใช้และพนักงานต้องหันไปสื่อสารกันผ่านช่องทาง Twitter กันอย่างล้นหลาม จนเหมือนเป็นโจ๊กกันว่า อยากรู้เรื่อง Facebook เหรอเข้ามาเช็คใน Twitter สิ และอีกหลายข้อความล้อเลียนที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กน่าจะขำไม่ออก

เวลาหกชั่วโมงที่โลกปราศจาก Facebook บางคนบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่เงียบเหงาแต่ว่าสบายใจดีเหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ทำธุรกิจฝากชีวิตไว้บน Facebook เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวทีเดียว และอาจทำให้ต้องมองหาช่องทางสำรองเอาไว้บ้าง
อย่าเอาไข่ทั้งหมดไปใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว ก็ยังเป็นสุภาษิตฝรั่งที่ยังใช้ได้อยู่เสมอ
ติดตามบทความเรื่องเทคโนโลยีได้ที่ ทันโลกit
เวปไซด์ getup-it.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook